pue's tales ; tales from pue
Trap 11
Home
Fiction
HP-FanFiction
Non - Fiction
links

 
 
 
chapter 11 ; สงครามครั้งสุดท้าย

เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอหลับเข้าไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่เธอโดนจับมาขังและอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ เธอรู้แต่ว่าหลังจากที่เดรโกเดินออกไปจากห้อง เธอก็ทิ้งตัวลงร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ทุบประตู และกระแทกมันด้วยความหวังเพียงน้อยนิดว่ามันจะเปิดออก ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ดีว่ามันลงคาถาเอาไว้ ในเช้าวันนี้เธอรู้สึกสงบกว่าเดิมมาก เธอเริ่มสำรวจห้องที่ขังเธออยู่ทีละน้อย ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงประตูเพียงบานเดียว ถ้าเธอเดาไม่ผิดที่นี่คือคุกใต้ดินของคฤหาสน์มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติของเธอให้กลับมาอย่างครบถ้วน 'ใช่เราต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด' ระหว่างที่เธอเดินสำรวจอยู่นั่นเอง ประตูก็เปิดออก ทำให้เธอหันไปมองอย่างตกใจ
 
"กินอะไรสักหน่อย" เขาเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร
 
"ฉันไม่กิน" เธอพูดพลางสะบัดหน้าไปอีกทาง ตอนนี้เธอรู้สึกเกลียดเขาอย่างที่ไม่เคยเกลียดใครมาก่อน
 
"ถ้าเธอไม่กิน เธอก็จะไม่มีแรง ฉันไม่ได้ใส่อะไรไว้ในนี้หรอกน่า ฉันสาบาน" เขาพูดพลางวางถาดอาหารนั้นลง
 
"คำพูดของนายไม่เคยเชื่อได้เลยสักครั้ง นายบอกว่านายจะไม่เป็นผู้เสพความตาย แต่แล้วนายก็เป็น นายมันสับปรับ หลอกลวง เลว" เฮอร์ไมโอนี่พูดไปน้ำตาไหลไป
 
"เธอเองก็ไม่ได้ดีกว่าฉันไปสักเท่าไหร่หรอก หลอกลวง เธอหลอกว่ารักฉัน แต่จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่ได้รัก แถมไปคบกับเจ้าคาร์ลอสหน้าตาเฉย เราก็ไม่ต่างกันหรอก" เขาพูดเสียงเย็น แต่ในแววตามีความเจ็บช้ำอยู่ภายใน
 
"ฉัน.. ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ตอนนั้นฉันรักนายจริงๆ แม้ว่าทั้งหมดจะเริ่มต้นขึ้นเพราะความหลอกลวง แต่ฉันก็รักนาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ฉันเกลียดนายเข้ากระดูกดำเลย เดรโก มัลฟอย ฉันสาบาน ฉันจะฆ่านายด้วยมือของฉันเอง" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสั่น เธอรู้ว่าความจริงแล้วในความเกลียดที่เธอมี ก็ยังมีความรักอยู่
 
"เอาตัวเองให้รอดจากที่นี่ก่อนเถอะ กินข้าวซะ จะได้มีแรงมาฆ่าฉัน" ฉันพูดพลางยิ้มเหยียดๆ เฮอร์ไมโอนี่ปรายตามองอาหารตรงหน้าก่อนที่จะหยิบขนมปังไปกิน จริงอย่างที่เขาว่า ตอนนี้เธอต้องกินเอาแรงเอาไว้ก่อน เพราะถ้าเธอไม่มีแรง เธอก็จะทำอะไรไม่ได้ พาลจะเป็นลมเอาเสียเปล่าๆ พอเขาเห็นว่าเธอเริ่มที่จะกิน เขาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ พลางมองหน้าเธอที่ตอนนี้มีริ้วรอยของบาดแผลฟกช้ำอยู่
 
"เฮอร์ไมโอนี่" เขาพูดเสียงเบา เธอมองหน้าเขาอย่างชิงชัง
 
"นายไม่มีสิทธิ์จะเรียกชื่อฉัน" เธอพูดอย่างเย็นชา พลางวางขนมปังลง
 
"ฉันรักเธอ" เขาพูดโดยที่ไม่สนใจคำพูดของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น เธอไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาถึงมาบอกรักเธอตอนนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนที่เขาจะฆ่าพ่อแม่ของเธอ ก่อนที่เขาจะจับตัวเธอมาที่นี่ เธอคงจะกระโดดกอดเขาด้วยความดีใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขากับเธอเป็นศัตรูกันอย่างเต็มตัว ไม่มีทางที่จะมาบรรจบกันได้ เฮอร์ไมโอนี่หันหน้าไปอีกทาง น้ำตาอุ่นๆ ไหลลงมาจากตา หัวใจของเธอสับสนเหลือเกิน ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะรักหรือจะเกลียดผู้ชายคนนี้ดี เธออยากจะเกลียดเขาให้สุดขั้ว แต่ลึกลงไปสุดหัวใจ เธอก็รู้ว่าเธอรักเขาเช่นกัน
 
"ฉันรักษาแผลให้" เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ ทำให้เธอถอยห่างทันที
 
"อย่าเข้ามานะ" เธอขู่ฟ่อ พลางปาดน้ำตาบนหน้า
 
"ถ้าเธออยากจะช่วยเจ้าพอตเตอร์ เธอก็ต้องไม่บาดเจ็บ ไม่งั้นเธอจะช่วยมันได้ยังไง มานี่" เขาพูดอย่างระอาใจ พลางฉุดตัวเธอลงนั่ง แล้วบรรจงถอดเสื้อเธอออก แล้วเอายาที่เขาเอามาทาตรงบริเวณที่บาดแผลที่มีเลือดไหลซิบๆ และรอยฟกช้ำเพราะคาถาเมื่อคืน
 
"ทำไมเดรโก ทำไมเราสองคนต้องจบแบบนี้ด้วย ทำไมเธอต้องฆ่าพ่อแม่ฉัน ทำไมนายต้องจับฉันมา ทำไมนายต้องเป็นผู้เสพความตาย ทำไมเราถึงต้องอยู่คนละฝ่าย" เธอพูดเสียงสั่น เธอไม่สามารถบังคับน้ำตาไม่ให้ไหลได้แล้วในตอนนี้ เธอรู้ว่ามันอาจจะผิดต่อพ่อแม่ของเธอ มันอาจจะผิดต่อแฮร์รี่ แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าเธอรักผู้ชายคนนี้อย่างไม่เคยรักใครมาก่อน เขาเลื่อนมือมาเช็ดน้ำตาเธอเบาๆ มองเธอด้วยสายตาที่ห่วงใยอย่างสุดซึ้ง
 
"ฉันสัญญาเกรนเจอร์ เธอต้องปลอดภัย" เขาพูดพลางจูบเปลือกตาเธอเบาๆ "เดี๋ยวพ่อฉันจะกลับมาแล้ว ฉันต้องไปก่อน" เขาพูดพลางเดินออกไปจากห้องนั้น ทิ้งให้เธอนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
 
**
 
"รอน แฮร์รี่" เดฟวิ่งหน้าตาตื่นมาหาทั้งสองคน
 
"เกิดอะไรขึ้น แล้วเฮอร์ไมโอนี่ล่ะ" รอนถามอย่างร้อนรน วันนี้เขาไม่เห็นเฮอร์ไมโอนี่ลงมากินข้าวเช้า
 
"เฮอร์ไมโอนี่หายไป" เดฟพูดอย่างร้อนรน "เมื่อคืนเธอบอกว่าจะไปหามัลฟอย แล้วก็หายไป" สิ้นเสียงเดฟแฮร์รี่วิ่งไปที่โต๊ะสลิธิรินทันที แต่ก็ไม่มีวี่แววของมัลฟอยอยู่เลย แฮร์รี่ตรงไปกระชากคอเสื้อแครบ
 
"มัลฟอยอยู่ไหน" เขาตะคอกถาม
 
"มะ ไม่รู้ เขาหายไปตั้งแต่หลังกินข้าวเมื่อวาน" แครบละล่ำละลักตอบด้วยความกลัว
 
"ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรเหรอมิสเตอร์พอตเตอร์" สเนปเดินมาถามเสียงเย็น
 
"เฮอร์ไมโอนี่หายไป มัลฟอยจับตัวเธอไป" แฮร์รี่ตะคอกเสียงดัง ทำให้คนทั่วห้องโถงต่างตกตะลึง
 
"คุณมีหลักฐาน" สเนปเลิกคิ้วถาม "ไม่มี แล้วมากล่าวหาเด็กบ้านฉัน มิสเตอร์มัลฟอยเขาไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน แม่ของเขาป่วย หวังว่าคุณคงเข้าใจ" สเนปพูดจบก็หันหลังเดินไป ทำให้แฮร์รี่กัดฟันกรอด เดินปึงปังออกไป
 
"มันต้องจับตัวเฮอร์ไมโอนี่ไปที่บ้านมัลฟอยแน่ๆ" รอนพูดขณะที่เดินตามเขามา "เราต้องไปหาดัมเบิลดอร์" แฮร์รี่พยักหน้า พลางเดินไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่
 
"ศ.ดัมเบิลดอร์ครับ เฮอร์ไมโอนี่ถูกจับตัวไป" แฮร์รี่พูดขึ้นด้วยเสียงร้อนรน โดยมีเดฟและรอนยืนอยู่ข้างๆ ศ.ดัมเบิลดอร์พยักหน้าเบาๆ
 
"ฉันรู้แล้วมิสเตอร์พอตเตอร์ แต่ปัญหาก็คือ เราไม่รู้ว่าเขาเอาตัวมิสเกรนเจอร์ไปที่ไหน" ศ.ดัมเบิลดอร์พูดเสียงเครียด
 
"มันต้องจับเฮอร์ไมโอนี่ไปที่บ้านของมัลฟอยแน่ๆ มัลฟอยเป็นคนจับตัวเฮอร์ไมโอนี่ไป" รอนพูดกึ่งๆ ตะโกน
 
"ใจเย็นๆ ตอนนี้เราต้องรอ เพราะถ้าเราบุ่มบ่าม มิสเกรนเจอร์อาจเป็นอันตราย ตอนนี้ที่เราอยากให้เธอทำคือ ไปอยู่ที่หอแล้วรอการติดต่อจากโวลเดอร์มอร์ ฉันคิดว่าไม่ช้า เขาต้องบอกเธอว่าจะเจอมิสเกรนเจอร์ที่ไหน"
 
"แต่ศาสตราจารย์ ถ้าเฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไรไปละครับ ผมรอไม่ได้" แฮร์รี่ตะโกนเสียงดัง
"เราต้องรอ" ศ.ดัมเบิลดอร์พูดเสียงเรียบ พลางส่งสายตาประมาณให้พวกเราออกไปจากห้อง ทำให้ทั้งสามคนออกไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
 
"รอๆๆ ถ้าเฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไรขึ้นมาล่ะ" รอนพูดขึ้นอย่างร้อนรน
 
"ฉันว่าพวกนายใจเย็นๆ ก่อน เอางี้ไปนั่งรอการติดต่อที่หอประธานนักเรียน ฉันคิดว่าพวกนายคงไม่อยากเจอคนอื่นสักเท่าไหร่ จริงไหม" เดฟพูดอย่างใจเย็น แฮร์รี่กับรอนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะขืนเขาต้องตอบคำถามเพื่อนๆ อีก เขาต้องเป็นบ้าแน่ๆ
 
ที่หอประธานนักเรียนแฮร์รี่กับรอนก็ไม่ยอมหยุดเดิน พลางมองหน้าต่างด้วยความร้อนใจ พวกเขาคิดว่าโวลเดอร์มอร์น่าจะส่งข่าวอะไรมาให้เขาบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย
 
"พวกนายหยุดเดินกันสักที" เดฟพูดขึ้น "ถึงเดินไปก็ช่วยเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้หรอกน่า" คำพูดของเดฟทำให้เด็กชายทั้งสองนั่งลงที่โซฟาอย่างไม่พอใจ แล้วทันใดนั้นเองสายตาของแฮร์รี่ก็เหลือบไปเห็นเตาผิง และผงฟลูที่อย่ข้างๆ
 
"ใช่แล้ว เราก็เดินทางผ่านผงฟลูไปก็ได้นี่ ไปบ้านมัลฟอย" แฮร์รี่พูดอย่างมีความหวัง
 
"ใช่ แฮร์รี่ นายนี่ฉลาดสุดๆ ไปเลย" รอนพูดขึ้น ตามีประกายแห่งความหวัง
 
"พวกนายจะบ้าเหรอ การใช้ผงฟลูก็ไม่รู้นะว่าจะไปออกส่วนไหน และนายก็ไม่รู้จักบ้านนั้นดี" เดฟพูดอย่างร้อนรน เขาไม่อยากให้แฮร์รี่กับรอนทำอย่างนั้น
 
"ถ้านายกลัวก็อยู่ที่นี่ ฉันจะไป" ก่อนที่เดฟจะพูดก็หยุดเขา แฮร์รี่ก็เดินไปที่เตาผิงแล้วก็หยิบผงฟลูโยนเข้าไป "คฤหาสน์มัลฟอย" จากนั้นรอนก็เป็นคนต่อไป เดฟจึงได้แต่ส่ายหัว
 
"นี่ฉันต้องตามไปใช่ไหมเนี่ย เอาเถอะติดต่อเจ้านายก่อนแล้วกัน" เขาพูดพลางโยนผงฟลูติดต่อกับเจ้านายที่เขาพูดถึง
 
***

เมื่อแฮร์รี่มาถึงที่คฤหาสถ์มัลฟอย เขาก็เดินออกมา ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่เขาไม่เจอใครในห้องนั้นเลย ที่นี่ดูทีมๆ ทึบๆ ยังไงบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เวลานี้เป็นเวลากลางวันแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าข้างในบ้านจะมืดเสียจนต้องจุดโคมไฟ ไม่ช้ารอนก็ออกมาจากเตาผิงตามเขามา ทั้งสองปัดขี้เถ้าที่เลอะตัวอยู่ และไม่ช้าเดฟก็ออกมาอีกคน
 
"แล้วเราจะไปทางไหนดี" รอนถามเสียงสั่น อย่างน้อยบรรยากาศในบ้านหลังนี้ก็ทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
 
"ฉันก็ไม่รู้" แฮร์รี่พูดช้าๆ พลางมองบรรยากาศรอบๆ ห้องอย่างหวาดระแวง ตอนี้เขาอยู่ในถ้ำเสือเสียแล้ว แถมยังเป็นถ้ำเสือที่เขาไม่รู้ทางเสียด้วย
 
"ยังไงก็ออกไปจากห้องนี้ก่อนเถอะ" เดฟพูดขึ้นอย่างไม่หยี่หระ จนแฮร์รี่กับรอนทึ่งในความนิ่งของเดฟจริงๆ
 
"นายไม่กลัวเลยเหรอเดฟ" รอนถามเสียงสั่นๆ ขณะที่พวกเขาเดินออกมาที่ระเบียงทางเดิน
 
"พวกนายเป็นคนนำฉันมานะ นายจะกลัวได้ยังไง" เดฟพูดเสียงดุ เหมือนกับว่าเขากำลังทำสิ่งที่ผิดอยู่ "นี่น่าจะเป็นห้องรับแขก" เดฟพูดพลางเปิดประตูเข้าไป หลังจากที่พวกเขาเปิดประตูเข้าไปสำรวจหาช่องทางลับ แสงสว่างในห้องก็ถูกจุดขึ้น
 
"หึๆ ในที่สุดแกก็มาหาฉันจนได้" เสียงเย็นๆ ดังขึ้นทำให้แฮร์รี่หันไปมอง
 
"โวลเดอร์มอร์ แกเอาเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้ที่ไหน" แฮร์รี่ตะโกนถาม
 
"อยากเจอยัยเลือดสีโคลนนั่นเหรอ ได้สิ ใจเย็นๆ เดรโกไปเอายัยเลือดสีโคลนมาที่นี่" โวลเดอร์มอร์หันไปสั่งชายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกไป
 
"เดรโก มัลฟอย" แฮร์รี่กัดฟันกรอด มองไปที่เขาอย่างชิงชัง มัลฟอยหักหลังเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งๆ ที่เธอรักเขา
 
"สำหรับแขกพิเศษ อยากจะได้อะไรอีกไหมนอกจากนี้" โวลเดอร์มอร์ถามอย่างอารมณ์ดี พลางนั่งลงที่โต๊ะรับแขก แฮร์รี่และรอนกระชับไม้กายสิทธิ์เอาไว้แน่น ตรงข้ามกับเดฟที่ยืนนิ่งจนแทบไม่ได้หายใจด้วยซ้ำไป พวกเขานั่งรอกันอยู่สักพัก เดรโกก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาบอกว่าเฮอร์ไมโอนี่หายไป
 
"บัดซบ" โวลเดอร์มอร์พูดด้วยความหงุดหงิด แต่พอมองหน้าแฮร์รี่ความหงุดหงิดนั้นก็บรรเทาลงไปได้บ้าง "แต่ก็ช่างเถอะ แค่เลือดสีโคลน ตอนนี้ฉันก็ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว" แฮร์รี่และรอนรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่หนีไปแล้ว อย่างน้อยเพื่อนเขาคนนี้ก็ปลอดภัย เหลือแต่พวกเขาสามคนล่ะ
 
"เดวิดจับมิสเตอร์วีสลียร์นั่นเอาไว้" โวลเดอร์มอร์สั่งคนที่ยืนอยู่หลังแฮร์รี่กับรอน ทำให้ทั้งสองหันมามองด้วยความตกตะลึง เดฟดึงรอนมาและร่ายคาถามัดรอนเอาไว้ทันที
 
"แก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะทรยศเฮอร์ไมโอนี่ ทรยศดัมเบิลดอร์" แฮร์รี่ตะโกนอย่างสิ้นหวัง มิตรตอนนี้กลายเป็นศัตรูไปหมด
 
"ทีนี้ก็เหลือเพียงเราสองคน พอตเตอร์ เราสองคนเท่านั้น" โวลเดอร์มอร์พูดเสียงเย็น
 
****

(ขอตัดมาอีกทางหนึ่ง)
 
ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากห้องนั้นได้ด้วยความช่วยเหลือของด๊อบบี้ เธอไม่รู้เหมือนกันว่ามันมาทางไหน รู้แต่ว่ามันสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย คงเป็นเพราะมันเคยเป็นเอล์ฟที่นี่มาก่อน
 
"ด๊อบบี้ นายจะพาฉันไปไหน" เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ
 
"เป็นคุณบอกว่าให้ด๊อบบี้พาเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ไปที่ที่ปลอดภัย ด๊อบบี้ต้องทำตาม" ด๊อบบี้พูดเสียงเบาๆ ดวงตาของมันเบิกกว้าง
 
"ใคร" เฮอร์ไมโอนี่ถาม
 
"ด๊อบบี้บอกไม่ได้ เป็นคุณไม่ยอมให้ด๊อบบี้บอก" ด๊อบบี้พูด
 
"เดรโก มัลฟอยใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเบาๆ ทำให้ด๊อบบี้หันมามองเธอน้ำตาเอ่อ
 
"เกรงว่าใช่" จากนั้นมันก็พยายามเอาหัวกระแทกผนัง ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องจับมันไว้
 
"ด๊อบบี้ ตอนนี้แฮร์รี่มาที่นี่แล้วใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเครียด ด๊อบบี้พยักหน้าหงึกหงัก
 
"พาฉันไปหาแฮร์รี่ ฉันต้องช่วยแฮร์รี่"
 
"แต่นายน้อยบอกให้พาเพื่อนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย" ด๊อบบี้พูด
 
"ฟังนะด๊อบบี้ ตอนนี้แฮร์รี่อยู่ในอันตราย ฉันต้องไปช่วย ไม่ว่ายังไงก็ตาม ถ้าแฮร์รี่ตาย ทุกสิ่งที่อย่างก็จะจบสิ้น เข้าใจไหม" เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ ทำให้ด๊อบบี้มองหน้าน้ำตาเอ่อขึ้นมา
 
"แฮร์รี่ พอตเตอร์จะต้องไม่ตาย แฮร์รี่พอตเตอร์จะต้องไม่ตาย" ด๊อบบี้พูดพลางเอาหัวโขกผนังอีกรอบ
 
"ใช่" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางจับตัวด๊อบบี้เอาไว้ "เพราะอย่างนั้นเราต้องไปช่วย เข้าใจไหม" คราวนี้ด๊อบบี้พยักหน้า แล้วเดินนำเฮอร์ไมโอนี่ไปอีกทาง
 
****

"แกต้องการอะไรโวลเดอร์มอร์" แฮร์รี่ถามเสียงเครียด
 
"ต้องการชีวิตของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกอย่างมันจะจบตอนนี้ วันนี้" โวลเดอร์มอร์พูด "แต่ก่อนที่แกจะตาย แกต้องได้รับความทรมานเสียก่อน ฉันจะฆ่าเพื่อนแกก่อน แล้วค่อยฆ่าแก เดวิดจัดการฆ่ามัน" รอนมองเดฟอย่างไม่เชื่อสายตาขณะที่เขาชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เขา รอนไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดยังไง รอนไม่สามารถอ่านความคิดจากดวงตาของเดฟได้เลย
 
"เอ็กเปลลิอาร์มัส" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากประตูห้อง ทำให้ไม้กายสิทธิ์ของเดฟลอยละลิ่วไปตกลงข้างๆ รอน ส่วนตัวเดฟปลิวกระแทกไปที่ผนัง
 
"เฮอร์ไมโอนี่" รอนกับแฮร์รี่ร้องขึ้นด้วยความดีใจ
 
"หนีไปได้ ยังกลับมาหาที่ตายอีกนะ" โวลเดอร์มอร์พูดเสียงเย็น พลางชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เฮอร์ไมโอนี่
 
"นายท่าน ท่านควรจัดการกับพอตเตอร์โดยเร็ว เพราะไม่ช้าดัมเบิลดอร์คงจะตามมา" เดรโกพูดขึ้น "อย่าเสียเวลากับเลือดสีโคลนเลย เดี๋ยวผมจะจัดการเอง เอ็กเปลลิอาร์มัส" เขาเสกคาถาเบาๆ พลางรับไม้กายสิทธิ์ของเธอได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากจะทำร้ายเธอ ทำให้เธอแค่เพียงผงะไปกระแทกกำแพงไม่รุนแรง เขาเดินไปที่เธอ และจับเธอไว้
 
"อยู่นิ่งๆ" เขากระซิบเสียงเบา ทำให้เธอหันมามองเขาอย่างโกรธแค้น ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังสนใจเฮอร์ไมโอนี่อยู่นั่นเอง แฮร์รี่ก็คว้าไม้กายสิทธิ์ของเดฟชี้ไปที่โวลเดอร์มอร์
 
" อะวาดา เคดาฟ - รา" แต่ดูเหมือนว่าลูเซียสจะไหวตัวทัน เลยมาบังลอร์ดโวลเดอร์มอร์เอาไว้ทัน
 
"พ่อ" เดรโกตะโกนอย่างตกตะลึง แล้วมองไปที่แฮร์รี่ ส่วนตัวแฮร์รี่เองก็ตกใจไม่แพ้กันที่นายลูเซียสเข้ามาขวาง แล้วโวลเดอร์มอร์ก็ใช้จังหวะนี้เอง ชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่แฮร์รี่ แล้วร่ายคาถาเดียวกับแฮร์รี่เมื่อกี้
 
" อะวาดา เคดาฟ - รา" แต่ทันใดนั้นเองก็มีลำแสงเกิดขึ้น เหมือนโล่ที่มาปกป้องแฮร์รี่เอาไว้ หลังจากนั้นพวกภาคีก็ปรากฎตัว พร้อมๆ กับดัมเบิลดอร์ที่ร่ายคาถาปกป้องแฮร์รี่เมื่อครู่ แล้วก็เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างผู้เสพความตายกับภาคี
 
"ครูซิโอ" มีผู้เสพความตายคนนึงพยายามจะร่ายคาถาใส่เฮอร์ไมโอนี่ แต่เดรโกมาบังตัวเธอเอาไว้ ทำให้เขารับคาถาไปเต็มๆ
 
"เดรโกเป็นอะไรหรือเปล่า" เธอถามด้วยเสียงร้อนรน
 
"ไม่เป็นไร" เขาตอบเสียงอ่อย
 
"ทรยศ รักเลือดสีโคลนเหรอเดรโก น่าผิดหวังจริงๆ" เสียงผู้เสพความตายคนที่ร่ายคาถาพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆ เอื้อมมือหยิบไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ข้างๆ ตัวเดรโก
 
"สตูเปฟาย" ไม่ทันที่ผู้เสพความตายคนนั้นจะตั้งตัวเฮอร์ไมโอนี่เสกคาถาใส่ ทำให้เขาแน่นิ่งไป
 
"เดรโก" เฮอร์ไมโอนี่ถลาไปหาเขา "เธอไม่เป็นอะไรนะ" เขาประคองกอดเขาไว้ ขณะที่เขาพยายามลุกขึ้น
 
"ฉันจะปกป้องเธอจนถึงที่สุด"
 
" อะวาดา เคดาฟ - รา" เสียงคาถาพิฆาตดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้คนทั้งห้องหันไปมอง แฮร์รี่ชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นสูง หอบหายใจเบาๆ ขณะที่ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ค่อยๆ ทรุดตัวลง จบสักที เฮอร์ไมโอนี่คิด
 
"ครูซิโอ" เสียงคนร่ายคาถาข้างหลังเธอ ก่อนที่เธอและเดรโกจะตั้งตัวติด ทำให้เฮอร์ไมโอนี่กระเด็นไปกระแทกกับกำแพงทันที แล้วสติสัมปัญญะของเธอก็ดับวูบลง
 
***************************************************************************************************************************
<<<back      1                       3            4                           6               7             8             9            10             11             12                next>>>