pue's tales ; tales from pue
Trap 10
Home
Fiction
HP-FanFiction
Non - Fiction
links

 

chapter 10 คฤหาสน์มัลฟอย

"ดีมากเดรโก นายท่านพอใจกับผลงานของแกมาก" เสียงของนายลูเซียสดังขึ้นในกองเพลิงสีเขียว เดรโกมองหน้าพ่อเขาที่หัวเราะอย่างพึงพอใจอย่างปวดร้าว เขาพยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา แต่เขาก็ทำได้ยากยิ่ง "งานต่อไปเดรโก จับยัยเลือดสีโคลนนั่นมาที่บ้านเรา"
 
"พ่อหมายถึงเกรนเจอร์" เดรโกพูดพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "ทำไมต้องจับเกรนเจอร์ไปที่บ้านเราด้วย"
 
"นายท่านต้องการล่อเจ้าพอตเตอร์มาติดกับ ฉันหวังว่าแกคงทำงานนี้ได้ดี เหมือนงานที่ผ่านมา" นายลูเซียสพูดจบก็หายไปทันที เดรโกนั่งลงบนโซฟาด้วยความอ่อนล้า เขาต้องทำงานให้ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ถึงเมื่อไหร่ เขาต้องทำให้เธอเจ็บไปอีกเท่าไหร่ แต่ถ้าเขาไม่ทำ ทุกอย่างก็จะจบสิ้น เขาไม่ชอบเวลาที่เขารู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่นให้ต้องเดิน เขาค่อยๆ พิงหลังไปกับพนักของโซฟาช้าๆ ปล่อยความคิดให้ล่องลอย ความทรงจำที่หวานชื่นระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่แล่นเข้ามาในหัวสมองเขาช้าๆ และจบลงด้วยแววตาและสีหน้าที่เจ็บปวดของเธอเมื่อตอนหัวค่ำ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเจ็บ แต่ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ และเขาไม่มีทางเลือก เขาก็ต้องทำ
 
------------------------------------------------------------------------------------
 
คืนนั้นเดรโกไม่ได้ขึ้นไปนอนที่ห้องของเขา เขาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนผล็อยหลับไป เขาไม่คิดเลยว่าการเป็นผู้เสพความตายจะทำให้เขารู้สึกอย่างนี้ เขาอยากรู้เหลือเกินว่าตอนที่ศ.สเนปเป็นผู้เสพความตายจะรู้สึกปวดร้าวอย่างนี้หรือเปล่า เขาลุกขึ้นช้าๆ เพื่อไปล้างหน้าล้างตา วันนี้เขาจะต้องเตรียมวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุม สำหรับการพาตัวเฮอร์ไมโอนี่ไปที่บ้านของเขา
 
"ไง นายได้รับคำสั่งจากพ่อนายแล้วใช่ไหม" เสียงนุ่มๆ ทักขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อเขาก้าวเท้าออกจากหอนอนสลิธิริน
 
"ไม่เกี่ยวกับแก คาร์ลอส" เขาพูดลอดผ่านไรฟันด้วยความเคียดแค้น ทำให้เดฟขำนิดๆ ในอาการของเขา และยิ่งทำให้เดรโกยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
 
"ฉันคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน สำหรับแผนลักพาตัวเฮอร์ไมโอนี่" เดฟพูดหน้าเครียด เดรโกมองเขาอย่างชั่งใจสักครู่ก่อนที่จะพยักหน้าเดินตามเขาไป
 
----------------------------------------------------------------------------------------------------
 
ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อคืนนี้เธอไม่อาจจะข่มตาให้หลับได้ เธอคิดถึงเดรโกตลอดทั้งคืน และความรักของเธอก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นที่ปะทุขึ้นมาในใจของเธอ เธอคิดอยู่อย่างเดียวว่าเธอจะต้องแก้แค้นให้พ่อแม่ของเธอ ไม่ว่าทางใดก็ตาม เธอรู้สึกเสียใจที่เธอหลงไปรักคนอย่างนั้น เธออยากจะเกลียดเขาให้ไปถึงขั้วหัวใจ ทั้งๆ ที่เธอรู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก
"ทำไมฉันยังรู้สึกรักเขาอยู่ ทั้งๆ ที่เขาฆ่าพ่อแม่ฉัน" เฮอร์ไมโอนี่พึมพำในลำคออย่างสับสน แต่ถึงแม้ว่าเธอจะคิดไม่ออกว่าทำไม แต่สิ่งที่เธอรู้เพียงอย่างเดียวก็คือ เธอจะต้องล้างแค้นให้พ่อกับแม่เธอให้ได้ เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตา และลุกขึ้นไปล้างหน้า เธอบอกกับตัวเองว่าเธอจะต้องเข้มแข็ง เพราะเธอมีเรื่องที่จะต้องทำอีกมาก ถ้าเธอมานั่งจมกองน้ำตาอย่างนี้ชาตินี้เธอก็ไม่มีทางแก้แค้นสำเร็จ
 
"เฮอร์ไมโอนี่" เสียงเพื่อนรักของเธอพูดขึ้นพร้อมกัน เมื่อเธอก้าวออกมาจากหอนอนประธานนักเรียน
 
"พวกนายรู้ได้ยังไงว่าหอนอนประธานนักเรียนอยู่ตรงนี้" เฮอร์ไมโอนี่ร้องทักอย่างแปลกใจ
 
"เดฟบอก" แฮร์รี่พูดอุบอิบ นี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนของเธอเรียกเดฟว่าเดฟ ไม่ใช่เดวิด
 
"ไปกินข้าวกันเถอะ เมื่อวานเธอแทบไม่ได้กินอะไรเลยนะ" รอนพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าและยิ้มให้เพื่อนทั้งสองของเธอ ทำให้แฮร์รี่และรอนโล่งใจที่เฮอร์ไมโอนี่ดูดีขึ้น
 
*

วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ห้องโถงกลางจะคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามา ห้องโถงทั้งห้องเงียบกริบ และมองเธอเป็นตาเดียวกัน แต่ในหัวเฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้ไม่คิดถึงเรื่องอะไรทั้งสิ้น เธอมองไปทางฝั่งสลิธิริน และมองเขาด้วยความเย็นชา เดรโกเองก็มองเธออยู่เช่นกัน ทั้งสองสบตากันอย่างยากที่จะเดาความหมายในสิ่งที่ทั้งสองสื่อถึงกัน
 
"เฮอร์ไมโอนี่ฉันว่าเธอย้ายมานอนที่หอกริฟฟินดอร์ดีกว่านะ พวกเราจะได้ดูแลเธอได้" แฮร์รี่พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
 
"นั่นสิ เธอมองอะไรน่ะเฮอร์ไมโอนี่" รอนเสริม พลางมองไปทางที่เฮอร์ไมโอนี่มองอยู่ "มัลฟอย"
 
"ไม่มีอะไรหรอกรอน ฉันแค่อยากจะมองคนที่ ......เอ่อ........คนที่น่าเกลียดที่สุดในโลกให้เต็มตา ก่อนที่มันจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็เท่านั้น" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความเคียดแค้น สายตาแสดงออกถึงความเกลียดอย่างสุดซึ้ง แม้แฮร์รี่กับรอนจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก เนื่องจากเพื่อนรักของเขาทั้งสองไม่พูดอะไรให้เขาฟังเลย แต่เขาก็พอจะเดาได้เลาๆ ว่า เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น จะต้องมีเดรโก มัลฟอยมาเกี่ยวด้วยไม่มากก็น้อย แต่ไม่ทันที่เขาจะถามอะไรมาก ก็มีนกฮูกเหยี่ยวตัวนึงบินมาตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ พลางทำท่าให้เฮอร์ไมโอนี่รีบแกะจดหมายออกไปสักที เฮอร์ไมโอนี่แกะจดหมายที่ขามันด้วยความมึนงง เธอรู้ดีว่านกฮูกนี้เป็นของใคร แต่เธอไม่เข้าใจว่าเขาส่งจดหมายอะไรมาหาเธอ
 
"ใครส่งมาเหรอ" รอนถามขึ้นพลางชะโงกหน้าเข้าไปดูเนื้อความในจดหมาย แต่เฮอร์ไมโอนี่เก็บลงเข้ากระเป๋าเสื้อคลุมเสียก่อน
 
"วิกเตอร์น่ะ" เธอตอบเสียงเรียบ พลางยกน้ำฝักทองขึ้นมาดื่ม และบอกเพื่อนเธอทั้งสองคนว่าจะไปห้องสมุด และไม่ต้องตามเธอมา
 
**
 
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ไปห้องสมุดอย่างที่เธอบอกเพื่อนของเธอ เธอสาวเท้ายาวๆ มานั่งที่ทะเลสาบ ตอนนี้เธอต้องการที่จะคิดอะไรเงียบๆ และหาที่อ่านจดหมายดังกล่าวตามลำพัง เธอคลี่จดหมายแผ่นนั่นออก แล้วเสกคาถาใส่มัน เพื่อให้ข้อความปรากฏ
 
"เฮอร์ไมโอนี่
 
3 ทุ่มคืนนี้มาพบฉันที่ห้องเดิม
 
เดรโก มัลฟอย"
 
"นายจะมาไม้ไหนอีก" เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างเคียดแค้น พลางเสกไฟให้ไหม้กระดาษอย่างเคียดแค้น 'ก็ดีเหมือนกัน คืนนี้ฉันจะแก้แค้นให้พ่อกับแม่ของฉัน' เฮอร์ไมโอนี่คิด
 
วันนั้นทั้งวันเธอไม่เป็นอันทำอะไร นอกจาคิดว่าเธอจะจัดการยังไงกับเขาดี บางทีเธอเหม่อเสียจนเพื่อนของเธอทักเป็นสิบหน เธอก็ยังไม่ได้ยิน
 
"เฮอร์ไมโอนี่ วันนี้เธอเป็นอะไรไป" รอนถามเธอย่างหวั่นๆ
 
"เปล่า" เฮอร์ไมโอนี่พูดนิ่งๆ "ฉันแค่คิดถึงพ่อกับแม่" ถึงแม้เฮอร์ไมโอนี่จะไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดแต่สิ่งที่เธอพูดเธอก็ไม่ได้โกหกเพื่อนของเธอ เพราะส่วนหนึ่งเธอก็คิดถึงพ่อกับแม่ แต่ตอนนี้เธอกำลังคิดถึงแผนการที่จะแก้แค้นมากกว่า
 
***
 
วันนี้เฮอร์ไมโอนี่บอกกับเพื่อนๆ ว่าจะไปนอนที่หอนอนประธานนักเรียนเป็นวันสุดท้าย ทั้งแฮร์รี่และรอนดีใจยกใหญ่ แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยิ้มอย่างเศร้า เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เธอจะได้กลับมานอนที่หอกริฟฟินดอร์ หรือว่าโดนจับส่งไปที่อัซคาบันโทษฐานฆ่าพ่อมดตาย พอสองทุ่มครึ่ง เฮอร์ไมโอนี่ก็ออกมาจากหอนอน เธอเดินไปตามระเบียงเรื่อยๆ มือของเธอกำไม้กายสิทธิ์เอาไว้แน่น เธอจินตนาการถึงตอนที่เดรโกฆ่าพ่อแม่ของเธออย่างเหี้ยมโหด เธอกัดฟันกรอดด้วยความแค้น ความแค้นสุมอยู่ในใจของเธอมากเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ตอนนี้เธอมาหยุดอยู่ที่ห้องนั้นแล้ว เธอเปิดประตูเข้าไปช้า และเธอก็พบว่าเขายืนอยู่ตรงหน้าต่างบานเดิมที่เขากับเธอชอบเอาไว้ดูดาวด้วยกันบ่อยๆ เธอปิดประตูช้าๆ มือกำไม้กายสิทธิ์แน่น พลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เขา
 
"มาถึงก็ไม่ทักไม่ทาย ชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่ฉันเชียวนะ" เขาพูดเสียงเย็น แล้วหันหน้ามาประจันกับเธอ
 
"นายมีอะไรก็พูดมา ก่อนที่ฉันจะฆ่าแก" เธอพูดอย่างเคียดแค้น แววตาของเขามีประกายแห่งความเศร้าอยู่ชั่ววินาทีก่อนที่จะปรับเป็นเฉยชาเหมือนเดิม
 
"เอาสิ ถ้าเธอทำได้ ก็ร่ายคาถาใส่ฉันเลย" เขาพูดอย่างท้าทายพลางเดินเข้ามาหาเธอ เฮอร์ไมโอนี่มือสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้เธอจะแค้นเขาแค่ไหน แต่เธอก็ปฏิเสธความจริงที่ว่า เธอรักเขาจนหมดหัวใจไม่ได้
 
"เอาเลยสิ ฆ่าฉันเลย ฉันเนี่ยแหละเป็นคนลงมือกับพ่อแม่ของเธอ" เขาจับมือเธอให้เอาไม้กายสิทธิ์จิ้มมาที่หน้าอกของเขาอย่างท้าทาย "ทำไม่ได้เหรอ" เขาเลิกคิ้วมองเธอ หยาดน้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาจากตาของเธอ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำไม่ได้ แค่เธอร่ายคาถา เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้พ่อกับแม่เธอได้แล้ว
 
"อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะมัลฟอย" เธอคำรามในลำคอ เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงบอกเธอว่าถ้ากล้าก็ทำเลย "ฉันจะให้โอกาสนายพูดธุระของนายมาก่อนที่ฉันจะฆ่านาย" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางลดไม้กายสิทธิ์ลง เขาเหยียดยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วส่งสายตาให้เธอตามเขาไป เธอลงนั่งอีกมุมนึงของโซฟาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
 
"ฉันขอจูบเธอได้ไหม" เขาพูดเสียงนุ่ม ทำให้เธอหันมามองเขาตาเขียว
 
"ฝันไปเถอะ ใครจะจูบกับคนเลวๆ อย่างนาย" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเคียดแค้น แต่ใจเธอกลับเต้นแรง
 
"มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเรา" เขาพูดพลางมองตาเธอ เธออดที่จะหวั่นไหวไปกับแววตาคู่นั้นไม่ได้ เขาขยับมาใกล้เธอ แล้วก้มลงไปที่หน้าเธอช้าๆ เมื่อเห็นเธอไม่ว่าอะไรเขาจึงบรรจงจูบเธอเบาๆ และอ่อนหวาน เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าจูบครั้งนี้ของเขาไม่เหมือนกับทุกครั้ง มันช่างอ่อนหวานกว่าครั้งไหนๆ แต่ในความอ่อนหวานนั้นก็มีความเศร้าปนอยู่ด้วย เขากับเธอจูบกันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออกมา
 
"ธุระของนายมีแค่นี้ใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเย็น เธอพยายามที่จะปิดบังความเศร้าภายในใจของเธอ เธอหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับร่ายคาถาใส่เขา แต่ก่อนที่เธอจะร่ายคาถาจบ ก็มีลำแสงหนึ่งพุ่งมาหาเธอจากด้านหลัง และสติสัมปชัญญะของเธอก็ดับวูบ
 
*****
 
"ฉันรักเธอเฮอร์ไมโอนี่" เฮอร์ไมโอนี่แว่วยินเสียงนี้มาจากที่ที่แสนไกลที่ไหนสักแห่ง เธอรู้สึกหนักอึ้งที่หัวเป็นอย่างมาก ตอนนี้เธอนอนอยู่บนพื้นหินที่เย็นเชียบ เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นช้าๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอเห็นอะไรในห้องนี้กระจ่างนัก เฮอร์ไมโอนี่พยายามยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เนื่องจากเธอโดนคาถาทำให้สลบไป ทำให้เธอรู้สึกมึนหัวไม่หาย แต่ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนได้นั้น คบเพลิงในห้องนั้นก็ถูกจุดสว่างขึ้นมาพร้อมกัน
 
"ขอต้อนรับสู่คฤหาสน์มัลฟอย" เสียงยานคางตามแบบฉบับของตระกูลมัลฟอยดังขึ้น ทำให้เฮอร์ไมโอนี่มองผู้ชายที่พูดขึ้นด้วยความตระหนก
 
"ลูเซียส มัลฟอย" เธอครางอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้าเธอ
 
"ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งคุณเกรนเจอร์" เขายิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจที่เห็นเธอมีท่าทางตื่นตระหนก
 
"แก ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" เธอตะคอกเสียงดัง
 
"อ้อ ต้องขอบคุณลูกชายที่แสนดีของฉัน เดรโกที่พาเธอมา เป็นเหยื่อล่อให้พอตเตอร์เข้ามาติดกับ" นายลูเซียสพูดเสียงเย็น ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองเดรโกที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกตะลึง เธอไม่คิดว่าเธอจะตกหลุมเขาง่ายขนาดนี้ ทำไมเธอถึงไม่คิดมาก่อนว่านี่เป็นแผน
 
"มัลฟอย นายมัน....เลว" เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาอย่างโกรธแค้น โดยเน้นคำว่าเลวเป็นพิเศษ พร้อมๆ กับมองหน้าเดรโก
 
"พูดไม่สุภาพเลยนะคุณเกรนเจอร์" นายลูเซียสพูดเสียงเย็น พลางเสกคาถาใส่เฮอร์ไมโอนี่ ทำให้เธอล้มลงไปกองกับพื้น "นี่เป็นบทลงโทษเล็กน้อย แต่ไม่ต้องตกใจ เรายังไม่ฆ่าเธอ จนกว่าเจ้าโง่พอตเตอร์จะมาติดกับ" พอนายซูเซียสพูดจบ ก็เดินออกไป ทิ้งให้เธออยู่กับเดรโกตามลำพัง เขาเดินมาดูเธอใกล้ๆ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่แล้วก็เดินออกไป
 
ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่เกลียดตัวเองเป็นที่สุด เธอไม่น่าโง่ให้เขาหลอก เธอคิดถึงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเดินติดกับเขาง่ายๆ นั่นสินะ ทำไม เธออาจจะทำให้แฮร์รี่ถูกฆ่าตายก็ได้ ใครจะไปรู้ เฮอร์ไมโอนี่ทุกพื้นอย่างโมโห ถ้าแฮร์รี่หรือใครเป็นอะไรไปเธอจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยจริงๆ
 
**********************************************************************************************
 
<<<back          1              2              3               4               5                6                7              8              9               10              11            12            next>>