สายลมเย็นๆ ในช่วงหน้าหนาวช่างบาดผิวของคนที่มายืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืนยิ่งนัก
สายลมที่เคยอ่อนโยนเมื่อตอนช่วงหน้าร้อน
ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับมีดโกนที่เสียดแทงเข้าไปในผิว
ทำให้เกิดอาการหนาวสะท้าน
และยิ่งคนที่มายืนใต้เงาจันทร์ไม่มีเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายมากไปกว่าเสื้อยืดบางๆ
เพียงหนึ่งตัวก็ยิ่งทำให้สายลมเย็นๆ
บาดลึกเข้าไปในร่างกายมากขึ้น
ตอนนี้ผู้ชายคนที่ออกมาชมแสงจันทร์ยามเที่ยงคืนทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากยืนกอดอกเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายเพียงเล็กน้อย
คืนนี้เขารู้สึกอ้างว้างและหงอยเหงามากเป็นพิเศษ
มากเกินกว่าที่จะอยู่ในห้องที่แสนอุดอู้
มากเกินกว่าที่จะข่มตาให้หลับลงได้
เขาค่อยๆ ถูแขนทั้งสองข้างไปมา
ตาก็มองพระจันทร์ที่กำลังจะเต็มดวงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าราวกับว่ามันเป็นที่พึ่งพิงของใจที่อ่อนแรงของเขาในยามนี้
"เสื้อไหมค่ะ" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
ทำให้เขาหันไปมองด้วยความแปลกใจ
แน่ละสิ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องแปลกใจ
เพราะเวลาค่ำคืนในที่เปลี่ยวๆ
เช่นนี้ไม่น่าจะมีใครมายืนอยู่แถวนี้
และยิ่งคนๆ นั้นเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว
มันยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ใหญ่
เขาหันไปมองผู้หญิงคนนั้นช้าๆ
เธอยิ้มให้เขา ในมือของเธอมีเสื้อกันหนาวตัวโคร่งอยู่หนึ่งตัว
เขารับมันมาด้วยสีหน้างงๆ
"ขอบคุณครับ" เขาพูดพลางใส่เสื้อตัวนั้น
ตาก็มองเธอตาไม่กระพริบ
เขาชักนึกสงสัยตะหงิดๆ
แล้วว่า เธอเป็นใครกันแน่
ไม่แน่ว่าเธออาจจะเป็นพราย
หรือว่าวิญญาณที่อยู่แถวนี้ก็ได้
เพราะภายใต้แสงจันทร์เธอดูซีดเซียวเกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์เดินดินได้
"ทำไมมาเดินคนเดียวเปลี่ยวๆ
ล่ะครับ เป็นผู้หญิงมันอันตราย"
เขาพูดขึ้น ทำให้เธอหันมายิ้มอย่างอ่อนโยน
"พระจันทร์สวยนะค่ะ"
เธอไม่ตอบเขา แต่หันหน้าไปมองพระจันทร์ที่กำลังส่องแสงอย่างอ่อนโยน
ท่ามกลางหมู่ดาวที่กระจัดกระจายบนท้องฟ้า
"ครับ" เขารู้สึกผิดหวังที่เธอไม่ยอมตอบคำถามของเขา
แต่ก็ปัดความรู้สึกนั้นออกไปจากใจ
เพราะเขาคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาหงุดหงิดใจ
เขาตั้งใจจะมาเดินเล่นใต้แสงจันทร์เพื่อจะผ่อนคลายอารมณ์อ้างว้างที่คุกรุ่นในตอนนี้
ทั้งสองนิ่งเงียบกันอยู่นาน
ตาของทั้งคู่จับจ้องไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้า
ในบางครั้งเขาก็ละสายตาจากพระจันทร์มามองเธอ
เขายอมรับเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง
แม้ว่าเธอจะผอมและซีดเซียวไปหน่อยก็เถอะ
"คุณชื่ออะไร" เขาถามขึ้น
เขาต้องการที่จะพูดอะไรกับเธอบ้าง
เพราะมันคงประหลาดไม่เบาที่เขาและเธอจะมายืนมองพระจันทร์กันโดยไม่พูดไม่จา
นอกจากนั้นเธอยังมีน้ำใจกับเขาให้ยืมเสื้อ
เพื่อไม่ให้เขาหนาวเหน็บในคืนที่อ้างว้างอย่างนี้
เธอละสายตาจากแสงนวลมามองหน้าเขา
และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"รันค่ะ มาจากชื่อจริง
สิมิรัน" เธอตอบเสียงนุ่ม
แววตาเป็นประกายระยิบระยับ
จนเขาไม่อาจละสายตาไม่จากเธอได้เลย
เขายอมรับว่าแววตาและคำพูดของเธอมีพลังดึงดูดอย่างประหลาด
เหมือนกับว่ามันมีพลังพิเศษที่เขาไม่อาจที่จะต้านทานได้
"ชื่อแปลกดีนะครับ" เขาพูดขึ้นยิ้มๆ
ทำให้เธอหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
เคยมีคนบอกกับเขาว่าผู้หญิงบางคนหัวเราะแล้วโลกดูสดใสขึ้นมาทันตาเห็น
เขาไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างนั้นสักที
จนกระทั่งวันนี้ เมื่อยามที่เธอหัวเราะเขารู้สึกเหมือนมีพระอาทิตย์ขึ้นอยู่แทนพระจันทร์
เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เขายิ้มขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
"คุณพ่อกับคุณแม่พบกันที่สิมิรันน่ะค่ะ"
เธอตอบเสียงใส "แล้วคุณ...."
เธอลากเสียงพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเขา
ทำให้เขาตื่นจากภวังค์
แล้วรีบบอกชื่อตัวเอง
"ต้นครับ" เขาพูดตอบเธอ
เธอยิ้มให้เขาบางๆ แล้วหันไปมองพระจันทร์
น่าแปลกที่ตอนนี้เขาไม่อยากที่จะชวนเธอคุยอีกต่อไป
เขาอยากจะปล่อยให้เธอมองพระจันทร์อย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ส่วนเขาก็อยากจะมองเธอมากกว่าที่จะมองพระจันทร์ตามความตั้งใจเดิมแล้วตอนนี้
เพราะสำหรับเขาในตอนนี้
สิ่งที่ทำให้เขายิ้มออกและสบายใจขึ้น
ไม่ใช่ธรรมชาติรอบตัวหรือว่าแสงจันทร์อีกต่อไป
หากแต่เป็นเธอ ผู้หญิงที่ทำให้โลกสดใสขึ้นมาเมื่อเธอแย้มยิ้มหรือหัวเราะ
"ฉันต้องไปแล้วล่ะค่ะ"
เธอพูดเสียงเบา คำพูดของเธอทำให้ใจเขาหายวาบ
แม้เขาจะรู้ว่าเธอคงมายืนอาบแสงจันทร์อีกไม่นาน
แต่เขาก็รู้สึกดี เมื่อมีใครยืนอยู่ข้างๆ
เขาในคืนที่แสนอ้างว้าง
"ครับ" เขาตอบเธอเบาๆ
แม้ว่าเขาอยากจะรั้งเธอให้อยู่เป็นเพื่อนเขามากเท่าไหร่
แต่เขาก็ต้องรับความจริงว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะรั้งเธอเอาไว้
เพราะเขาและเธอเป็นเพียงคนที่ผ่านมาเจอกันโดยบังเอิญเท่านั้น
เขาทำท่าจะถอดเสื้อคืนให้เธอ
แต่เธอสั่นหัวแล้วบอกกับเขาว่าให้เก็บเอาไว้
"เอาไว้เป็นที่ระลึกเถอะค่ะ
เผื่อว่าเมื่อคุณเห็นเสื้อตัวนี้จะคิดถึงฉันบ้าง"
เธอยิ้มบางๆ ให้เขา ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านในใจ
นั่นสินะ จากวันนี้ไปเขาและเธอคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรเธอจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา
และเดินจากไป เขาไม่ขยับร่างกายหรือว่าริมฝีปากเลยสักนิดเดียว
เขามองเธอเดินหายไปกับความมืดยามค่ำคืน
เขายืนมองพระจันทร์อยู่สักครู่ก่อนที่จะเงยหน้ามองพระจันทร์ที่สาดแสงนวล
เขาทอดถอนหายใจเบาๆ
กระชับเสื้อแขนยาวที่รับมาจากเธอ
ก่อนที่จะหันหน้าไปตามทางที่เขาเดินมา............
*****