pue's tales ; tales from pue
The Simple Love Story (Love) chapter 3
Home
Fiction
HP-FanFiction
Non - Fiction
links

 
 
 
 ตอนที่ 3 เกิดรัก

 
ถามเรื่องเฌเหรอ อย่ารู้เลย มันไม่มีอะไรหรอก จริงๆ โอเค ก็ได้ นิดเดียวเท่านั้นนะ เฌกับเฉันเป็นกันสมัย ม.ต้น โรงเรียนของฉันจะอยู่ห้องเดียวกันตลอด 3 ปี ก็เลยทำให้เพื่อนๆ ในห้องสนิทกันมาก แต่เฌเขาจะเป็นคนเงียบๆ ยิ้มน้อยๆ และที่สำคัญขี้เก็กสุดๆ ชอบไปยืนเก็กให้พี่ๆ ม.ปลายเห็น (อันนี้ฉันคิดเอาเองนะ) แต่ด้วยความที่ฉันเองก็เป็นคนทะเล้นหน่อยๆ ฉันก็ชอบไปแหย่ไปแกล้งคุณชายเฌราทรให้หลุดๆ บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยแรงหลอก ก็แค่ขัดขาให้สะดุดนิดๆ หน่อยๆ ขัดพื้นตรงที่นั่งเฌให้ลื่นนิดๆ หรือบางทีก็ทำไอติมเลอะใส่เสื้อ แล้วก็ทำหน้าแบบใสซื่อ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ
 
อย่าหาว่าร้ายเลยนะคะ แต่แหมลองนึกภาพคุณชายเฌราทร เนี้ยบทุกระเบียบนิ้ว เวลาเห็นเสื้อใครมีรอยยับเพียงนิด ก็จะทำคิ้วขมวด ถามว่า "นายใส่เสื้อยับๆ ออกจากบ้านได้ยังไง" โอ้แม่เจ้า ให้ตายเถอะ เวลาเล่นพละคุณชายเฌราทรก็จะเอาเสื้ออีกตัวมาเปลี่ยน เพราะเสื้อที่ใส่กลับจะได้ไม่เลอะ เอาเข้าไป ฉันจึงคิดว่าเกิดมาชาติหนึ่งได้เจอคนแบบคุณชายเฌราทรก็เป็นบุญอย่างยิ่ง และยิ่งมีโอกาสได้แกล้งแล้วล่ะก็ ฉันเองก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธโอกาสนั้นไป และโอกาสก็เป็นของคนที่พร้อมเสมอ
 
แต่ให้ตายสิ ฉันก็ไม่รู้ว่าเฌเป็นคนชอบความเจ็บปวด หรือว่าเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ กันแน่ เชื่อไหมว่าเขาไม่เคย แม้แต่ปริปากว่าฉัน เฌจะพูดเพียงว่า "ไม่เป็นไร" และถ้าเขาไม่โง่พอ ก็คงจะพอรู้ว่าฉันเป็นคนวางแผนแกล้งเขาสารพัดสารเพ จนในที่สุด ฉันก็ต้องเลิกไปเองแหละ มันจะสนุกอะไรกับการแหย่คนที่เขาไม่เล่นด้วย จริงไหมล่ะค่ะ เฌเรียนกับฉันจนถึง ม.3 ที่บ้านเฌก็ต้องย้ายไปที่อังกฤษ ฉันยอมรับว่าเศร้าสุดๆ เพราะหลังๆ ฉันก็สนิทกับเฌมาก เฌสัญญาว่าจะติดต่อกลับมาบ่อยๆ แต่แล้วเฌก็หายไป ฉันเสียใจอย่างมาก จนมีเพื่อนฉันคนนึงมาบอกว่า เฌมีเพื่อนใหม่ที่นู่น และคงลืมเพื่อนเก่าอย่างฉันไปแล้ว ฉันยอมรับว่าร้องไห้อยู่หลายวัน จนกระทั่งฝืนตัวเองกลับมายิ้มร่าเหมือนเดิม จนในที่สุดก็กลับมาเป็นฉันคนเดิมที่สนุกสนาน ขี้แกล้งขี้อำ ก็เท่านี้แหละค่ะ เรื่องของฉันกับเฌ ฉันบอกแล้วว่าไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิดเดียว
ว่าแต่ว่าพูดถึงผู้ชายที่ทำให้ฉันเป็นโรคประสาทตอนนี้เห็นจะเป็นนายเคน มีอย่างที่ไหน ลากฉันไปเรียนทุกวัน ไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะพี่แกเล่นโทรจิกตอนก่อนที่จะอาบน้ำ ตอนแต่งตัว แถมมานั่งกดดันอยู่ใต้หอ จนใครๆ เขาคิดว่าเป็นแฟนกันไปแล้ว
 
"นัต แก เอ่อ ... แกเป็น เอ่อ..."
 
"อะไรว่ะ ส้ม เอ่ออ่าอยู่ได้" ฉันพูดขณะที่ตามองหนังสือการ์ตูน แล้วหยิบเฟรนฟรายเข้าปาก
 
"นัตเป็นแฟนกับเคนเหรอ"  พรืด ฉันแทบจะเฟรนฟรายแทบจะติดคอฉันตายแล้วไหมล่ะ
 
"ไปเอามาจากไหนส้ม บ้าน่า ใครจะเป็นแฟนกับนายนั่น" ฉันตอบส้มพร้อมทั้งกลืนเฟรนฟรายชิ้นนั้นลงไปอย่างยากลำบาก พลางจ้องมองเพื่อนๆ ทั้งหลายที่นั่งอยู่ในหอด้วยสายตาอยากรู้
 
"ไมคิดกันอย่างนั้น พวกแกทุกคนเลย"
 
"ก็เคนมารับแกที่หอทุกวันจันทร์" บีพูดขึ้น
 
"ใช่ แถมโทรตามแกทุกครั้งที่ไปกินข้าว" กุลพูดขึ้นบ้าง
 
"ชอบลากแกไปติวหนังสือเวลาสอบ" อ้นพูดพลางจ้องหน้าฉันนิ่ง
 
"ใครๆ เขาก็พูดกัน" แป้งพูดขึ้นบ้าง
 
"ใช่ เราเลยอยากถามให้แน่ใจ" เสียงส้มพูดอ่อยๆ
 
"บ้าๆๆๆๆๆๆๆ พวกแกบ้าทุกคนเลย" ฉันพูดพลางชี้หน้าด่าเพื่อนแต่ละคน "คิดได้ไงว่ะ อกุศล ฉันกับเคนเป็นเพื่อนกัน ที่สนิทกันก็ไม่แปลก เคนกับฉันเจอกันตั้งแต่วันแรกที่รู้ผมเอ็น อีกอย่าง เวลาไปไหนมาไหน พวกแกก็ไปด้วยตลอด ฉันไม่เคยไปไหนกับเคนสองต่อสองเลยนะ ตอนที่เคนมารอตอนเช้า พวกแกก็ไปพร้อมฉัน เฌ เก่ง เฮง ก็อยู่ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกแกคิดอะไรกัน" ฉันร่ายยาวจนหอบ แล้วก็นั่งมองหน้าเพื่อนที่แสนอยากรู้เรื่องของฉัน
 
"สรุปคือไม่ใช่เหรอ" ส้มถามพลางมองฉันอย่างหวั่นๆ
 
"ใช่ ฉันกับเคนเป็นเพื่อนกัน เพื่อน รู้จักป่ะเพื่อน" ฉันเน้นย้ำคำว่าเพื่อนชัดๆ ช้าๆ เจ้าเพื่อนตัวดีแต่ละคนของฉันพยักหน้าเออออ ส่วนส้มอ่ะเหรอยิ้มแป้นเชียว ทำให้ฉันนึกอะไรบางอย่างออก
 
"ส้ม แกถามฉันแล้ว ขอถามบ้างดิ" ฉันถามส้มพลางทำหน้าให้ดูไร้เดียงสาสุดๆ
 
"อะไรเหรอ" ส้มมองหน้าฉันอย่างไม่ไว้ใจ
 
"ส้มชอบเคนเหรอ" แค่คำถามนั้นเท่าแหละ หน้าส้มที่ขาวๆ ใสๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
 
"ฉัน บ้า นัตเอาอะไรมาพูด" ส้มปฏิเสธพัลวัน
 
"ก็แล้วไป เนี่ย มีเพื่อนต่างคณะเขามาชอบเคน ถ้าส้มไม่ชอบก็............" ฉันพูดไม่ทันจบส้มก็ขัดขึ้น
 
"อย่านะ"
 
"ฮ่าๆๆๆ ส้มนี่ดูง่ายชะมัด เอาน่าๆ เดี๋ยวช่วยๆ" ฉันพูดยิ้มๆ ทำให้ส้มยิ้มหน้าแดงด้วยความเขิน ตอนนั้นฉันไม่ได้ชอบเคนจริงๆ ให้ตายสิ และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำตอนนั้นจะสร้างความลำบากใจให้กับฉันในตอนหลัง
 
เหตุการณ์ก็ล่วงเลยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันที่แข่งแรลลี่เชื่อมความสัมพันธ์กับคณะบัญชี ฉัน เก่ง เฮง อ้น และ กุล ตัดสินใจทำฐาน ส่วนเคน เฌ แป้ง ส้ม และปุ๊ก ก็ไปแข่งแรลลี่ ฉันเก่งและเฮง ทำฐานเพราะเหตุผลที่ว่าอยากจะแกล้งคนมากกว่าจะถูกแกล้ง ส่วนที่เหลือก็บอกว่าขี้เกียจไปเล่นเกม มาช่วยกันแกล้งคนอื่นดีกว่า แต่ละคนเหตุผลดีๆ ทั้งนั้น นั่นสินะ คนดีๆ เขาก็ไปแข่งกันหมด คนที่น่าขำที่สุดคือเฌ เพราะกว่าจะมาถึงฐานฉัน เขาก็เละไปทั้งตัว ไม่เหลือคราบคุณชายเฌราทรเลย ส่วนแป้งก็สมชื่อแป้งเพราะมีแป้งสีๆ เต็มตัวอยู่เหมือนกัน อย่างนี้แหละน้า อยู่ดีไม่ว่าดี
 
ฉันนั่งอยู่ที่ฐานพลางมองดูเหยื่อสามคู่ต่อไปที่ขี่จักรยานมาที่ฐาน ถ้าจำไม่ผิดนั่นก็เคน แล้วก็ส้ม เสร็จแน่ๆ เพื่อนรัก ฉันคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่มีความปราณีในหมู่โจร คือคำปฏิญาณที่พวกเราให้กันไว้ตอนทำฐาน ฉันหันหน้าไปยิ้มกับฝาแฝดจอมป่วนอย่างรู้กัน ฐานของเราก้ไม่มีอะไรยากหรอกค่ะ เพียงแต่เราจะให้ล้วงไหที่มีก้อนเมือกของความขยะแขยง ทีแรกเก่งกับเฮงจะเอาปลาไหล แต่ฉันสงสารปลา ก็เลยเอาเยลลี่ใส่ลงไป แล้วก็เอางูปลอมที่เก่งกับเฮงทำขึ้นเองจากเรซิ่น แล้วเอาน้ำมันมาทาให้ลื่นๆ ใส่ลงไปปนกับไข่ที่ใส่ข้อความว่าแต่ละคู่ต้องหาของอะไรในพงหญ้าที่พวกเราซ่อนของเอาไว้ ฉันเอาของบางอย่างใส่ไว้ใต้หินบางก้อน ทำให้หายากพอดูเลยแหละ และเกือบทั้งหมดนั่นเป็นความคิดของฉันเอง
 
"จุดนี้ไม่ยาก  ก็แค่ล้วงไหนี้ แล้วหาไข่ในไหให้เจอ ในไข่จะบอกว่าจะต้องหาอะไรภายในบริเวณดังกล่าว เอ้า มี 3 ไห ถ้าพร้อมแล้วล้วงเลย" ฉันพูดอย่างนึกสนุก ที่เห็นเพื่อนๆ มองอย่างหวาดๆ คนเรามักจะกลัวสิ่งที่เราไม่รู้มากที่สุด "เอาน่าส้ม อย่างมากฉันก็ใส่ปลาไหลงไปในไห" ฉันพูดอย่างนึกสนุก พลางมองหน้าส้มที่ซีดเอาๆ ฉันเหล่ตามองสาวบัญชีที่มากับเคน แล้วก็มองไปดูส้มที่มองอยู่เป็นระยะๆ อย่างกังวล แต่ก็คิดอยู่ได้ไม่นานเจ้าสองตัวแสบเก่งกับเฮงก็ชี้ชวนฉันไปสนใจสีหน้าของแต่ละคนที่ล้วงไห
 
"กรี๊ดดดดดดดด" เสียงส้มดังขึ้น ตอนนั้นฉันกำลังแกล้งเคนอยู่มั้ง ถ้าจำไม่ผิด แต่ก็เคนอีกนั่นแหละที่ได้สติคนแรกวิ่งไปดูส้ม แล้วฉันก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
 
"นัตไปเอาเชือกมา" เสียงเคนพูดอยู่ใกล้ๆ แต่มันช่างดูล่องลอยในความคิดของฉันเหลือเกิน ตอนนี้ในหัวฉันเห็นแต่รอยเขี้ยวงูที่ขาของส้มกับงูเขียวตัวยาวๆ ที่เลื้อยออกไปไกลจากผู้คน  "นัต เร็ว" เสียงเคนตะโกนขึ้นอีกที ทำให้สติสะตังฉันกลับคืนมาเล็กน้อย ฉันหาเชือกฟางอย่างร้อนรน จับผิดจับถูกทั้งหลายครั้ง แต่ก็พยายามบอกตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ มีสติเข้าไว้ แต่มือที่สั่นอยู่ ไม่ยอมทำตามเลยสักที ฉันส่งเชือกให้เคนอย่างรีบร้อน พลางมองดูเคนที่เหมือนจะประคองสติได้ดีกว่าเพื่อนในเวลานั้น
 
"นัตไปเรียกสองแถว เร็ว เร็วสิ" ฉันพยักหน้า แล้วก็วิ่งไปเรียกสองแถวที่กำลังวิ่งอยู่ โดยที่ไม่ได้ใส่รองเท้า
 
"เอ่อ คือว่า งูกัด โรงพยาบาล" ฉันพูดไม่เป็นภาษา โอ้ย ฉันรู้สึกแย่มาก ดูเหมือนว่าฉันจะทำให้ทุกอย่างช้าไปหมด "พี่ครับ ไปโรงพยาบาลด่วนเลย เพื่อนผมโดนงูกัด"  เสียงเคนดังขึ้นข้างหลังฉัน แล้วเคนก็อุ้มส้มขึ้นไปกระบะหลังแล้วเรียกฉันขึ้นไปด้วย ตอนนี้ฉันเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งของเคน พอถึงโรงพยาบาลหมอก็พาส้มเข้าห้องฉุกเฉินทันที ฉันมองส้มอย่างเป็นห่วงและตื่นกลัว ฉันกลัวเหลือเกินว่าส้มจะเป็นอะไรไป เสียงอ้นดังขึ้นมาในโสตประสาทฉัน
 
"เฮ้ยนัต ให้ไปหาของในพงหญ้า เดี๋ยวงูก็ออกมาอาละวาดหรอกแก"
 
"ไม่หรอก อะไรจะโชคร้ายเหมือนหนังไทยขนาดนั้น" ฉันพูดอย่างไม่หยี่หระ
 
นี่เป็นเพราะฉันใช่ไหมส้ม ฉันคิดไปสั่นไป น้ำตาปริ่มๆ จวนที่จะไหลทะลักออกมา ถ้าส้มเป็นอะไรไปฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
 
"นัตไหวหรือเปล่า" เคนถามขึ้น ขณะที่เพื่อนๆ พากันกรูไปทางห้องที่หมอดูอาการส้มอยู่ "ส้มไม่เป็นไรหรอก เฮ้ย อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ" เคนพูดพลางลูบไหล่ฉันเบาๆ เพื่อปลอบใจ ทำให้ฉันยิ่งอยากร้องไห้ ฉันไม่สมควรได้รับการเป็นห่วงด้วยซ้ำไป เพราะฉันเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาเอง ถ้าฉันไม่เล่นสนุกจนเกินเหตุ ถ้าฉันคิดถึงความปลอดภัยของเพื่อนสักนิด เรื่องอย่างนี้ก็คงไม่เกิด
 
"เพราะนัตเอง นัตเป็นคนคิดให้ไปหาของที่พงหญ้า นัตผิดเองเคน นัตผิดเอง" ฉันพูดออกมาอย่างยากลำบาก เคนไม่เพียงแต่ไม่โทษฉัน แต่กลับพูดปลอบว่าไม่ใช่ความผิดฉัน "นัต ไม่ใช่ความผิดของนัต ไม่มีใครอยากให้เกิด ใจเย็นๆ ไม่เอาน่าอย่าร้อง" พอสิ้นคำเคนเท่านั้นแหละ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลบ่าลงมา ฉันร้องไห้โฮอย่างที่ไม่คิดว่าจะร้องได้ ฉันไม่รู้จะพึ่งใครตอนนี้ ฉันรู้แเพียงว่าต้องการใครสักคนที่อยู่กับฉันตอนนี้ และใครคนนั้นในตอนนี้ก็คือเคน ฉันหมุนตัวซบไหล่เคนร้องไห้อย่างไม่อาย ฉันไม่รู้จะทำอะไรนอกจากร้องไห้แล้วตอนนี้ สักพักฉันก็ได้ยินเสียงปุ๊กกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา พอฉันเห็นปุ๊กฉันก็รีบโผเข้าหาปุ๊ก และร้องไห้อย่างหนัก อ้อมกอดของเพื่อนตอนนี้ช่างอบอุ่นเหลือเกิน รวมถึงมือของเคนที่ลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจ คืนนั้นฉันพยายามขอคุณหมออยู่เผ้าส้ม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงหมอก็ไม่ยอมท่าเดียว เคนกับปุ๊กจึงพาร่างของฉันกลับไปที่หอ อาบน้ำล้างหน้าล้างตา เพื่อไปร่วมงานตอนเย็น
 
ความจริงฉันไม่อยากไปร่วมงานตอนเย็นเลย แต่ปุ๊กกับเคนไม่อยากให้ฉันจมปลักอยู่ในห้อง และเรายังมีการแสดงที่ต้องแสงบนเวที ทำให้ฉันปัดความรับผิดชอบนี้ไปไม่ได้ ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าปุ๊กกับเคนพยายามแค่ไหนที่ทำให้ฉันกลับไปร่าเริงเหมือนเดิม อ้อ รวมถึงเก่งกับเฮงด้วย แต่ฉันยังช็อคกับภาพที่ส้มโดนงูกัดอยู่ เลยไม่มีอารมณ์ที่จะสนุกสนานใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้เคนกับปุ๊กจะมาพุดปลอบยังไงก็เถอะ
 
ระหว่างที่ฉันนั่งอยู่โดยมีปุ๊กและเคนนั่งอยู่อย่างอ่อนใจอยู่ข้างๆ เฌก็เดินเข้ามา แล้วก็นั่งตรงหน้าฉัน ฉันเหลือบมองเขาอยู่ชั่ววินาที ก่อนที่จะก้มมองพื้นเหมือนเดิม
 
"นัต" เสียงเฌพูดอู้อี้ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมา หน้าของเฌตอนนี้ทำให้ฉันอดขำไม่ได้ เฌเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างดึงตาให้ตี่ลง แล้วดึงมุมปากสองข้างให้ขึ้นสูง พร้อมๆ กับกดนิ้วที่กดหางตาให้ต่ำลง แล้วแลบลิ้นเอียงหัวให้ฉัน ทำหน้าตาทะเล้นสุดๆ
 
"ฮ่าๆๆๆ เฌทำไรอ่ะ บ้า" ฉันพูดขณะที่ยังขำไม่หาย จะไม่ให้ขำได้ยังไง คุณชายเฌราทรทำหน้าประหลาดที่ดูทุเรศ คุณชายที่ต้องดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้ามาทำท่าอย่างนี้ต่อหน้าคนเยอะๆ เพื่อให้ฉันหัวเราะ และฉันก็หัวเราะจริงๆ
 
"หัวเราะแล้ว ต้องอย่างนี้สิ นัตไม่สนุก เพื่อนก็หงอยนะนัต อย่าทำหน้าอย่างนี้เลย หน้าบูดน่าเกลียดจะตาย" เฌพูดขึ้น พลางทำท่าทะเล้น แล้วก็ปลิ้นหน้าปลิ้นตาอีกครั้ง เฌทำอย่างนี้เล่นเอาเคนกับปุ๊กตะลึงตาค้างขำไม่ออกไปเลย
 
"บ้า ฉันไม่หลงกลมุขนายเป็นครั้งที่สองติดต่อกันหรอก" ฉันพูดไปหัวเราะไป ฉันมองหน้าเพื่อนทั้งสามคนที่ดูยินดีที่ฉันหัวเราะได้อีกครั้ง ทำให้ฉันรู้สึกผิดที่นั่งซึมกะทือ เพราะการนั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำไปแล้ว และทำให้เพื่อนๆ ไม่สบายใจ ฉันยิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง เอาไว้ส้มหายเมื่อไหร่ จะขอขมาจากใจเลย ฉันคิดอย่างโล่งใจที่ตัวเองยังหัวเราะออก พลางชวนปุ๊กให้ไปดูการแสดงมายากลของสองหนุ่มแสบเก่งและเฮง
 
:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:
 
 
<<<back           1              2              3