pue's tales ; tales from pue
The Simple Love Story (Friendship) chapter 3
Home
Fiction
HP-FanFiction
Non - Fiction
links

 
 
 
 ตอนที่ 3 พบรัก

วันเวลาบางทีก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้า บางทีก็ก้าวผ่านไปอย่างรวดเร็วไปยังกับติดจรวด เพราะไม่นานนักผมก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมาได้สองเดือนกว่าๆ แล้ว กิจกรรมรับน้องมีขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการไปรับน้องใหม่ที่ต่างจังหวัด หรือจะเป็นการเตรียมงานแสดงในคืนFreshy night ที่รุ่นพี่จัดขึ้น ก็มีบางช่วงนึงผมกับนัตเองก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เนื่องจากว่าผมเองก็ไปคลุกคลีอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย ที่มีสองแสบเก่งกับเฮง ที่ชอบทำหาอะไรแสบๆ แปลกๆ มาเล่นอยู่เสมอ ล่าสุดนี่ก็ไปซื้อขี้ปลอมมาแล้วก็วางลงบนเก้าอี้ รอจังหวะให้เพื่อนคนที่ไม่ทันระวังตัวนั่งลงไป พวกคุณคงนึกสีหน้าคนที่โดนเจ้าขี้ปลอมนี่เข้าไปใช่ไหมครับ ทำหน้าแบบจะอ้วกเสียให้ได้ พอความแตก เจ้าสองตัวนี่ก็โดนยำไปตามระเบียบ และยิ่งเหยื่อรายหนึ่งเป็นเฌ คุณชายจอมเนี้ยบด้วยแล้วล่ะก็ เละแบบไม่เหลือซากเลยล่ะครับ ดีนะที่เจ้าสองตัวนั้นมันมีวิชาตีนหมา วิ่งเร็วยังกับจรวดทางเรียบ ไม่งั้นนะ มันคงโดนอัดตายไปแล้ว
 
ความจริง แรกๆ ที่เข้าไปอยู่หอ ผมกับนัตก็ไปกินข้าว ไปเรียนด้วยกัน แรกๆ นัตเองก็ยินดีที่จะไปพร้อมกันกับผมและกลุ่มเพื่อนผู้ชาย พวกเราจึงกลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาก เพราะมีทั้งผม เฌ เก่ง เฮง นัต ปุ๊ก บี กุล แล้วก็อ้น นอกจากนั้นยังมีเพื่อนอีกหลายคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ส่วนใหญ่แล้วจะมาเพราะนัตชวน อ้อ ลืมไป ผมลืมไปอีกคู่นึงครับ ส้มกับแป้ง ทั้งสองคนเป็นคู่หูมากจากโรงเรียนเดียวกัน พวกเราก็ดูสนิทสนมกลมเกลียวกันดี แต่ที่แปลกๆ ก็คงเป็นนัตกับเฌ ปกตินัตดูจะเข้ากับทุกคนได้ดี ดีจนน่าเหลือเชื่อ คิดดูแล้วกันว่านัตทำให้ส้ม คนที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยิ้มและคุยเล่นกับเธอได้ แต่กับเฌ ดูเหมือนนัตจะเลี่ยงๆ ที่จะคุยยังไงไม่รู้ ด้วยเหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทำให้หลังๆ นัต ไม่ค่อยจะไปกินข้าว หรือนั่งเรียนใกล้ๆ ผมเท่าไหร่ ถ้าเฌอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ยังคงระยะห่างของความสนิทเอาไว้เหมือนเดิม
 
"เฮ้ย ไอ้เคน วันนี้นัตไม่ตื่นมาเรียนอีกแล้วว่ะ" เฌพูดขึ้นในห้องเรียนจิตวิทยาที่คนเรียนเป็นพันคน ซึ่งกว่าครึ่งห้องต่างพร้อมใจกันไปเข้าเฝ้าพระอินทร์
 
"เออว่ะ" ผมหันไปทางกลุ่มนัต แล้วก็เห็นปุ๊กนั่งอยู่ไม่ไกลนัก ผมจึงกระซิบกระซาบพอให้ปุ๊กได้ยิน "ปุ๊ก ปุ๊ก"
 
"หา มีไรเคน" ปุ๊กเงยหน้าจากสมุดเลกเชอร์ตรงหน้ามามองผม
 
"นัตไม่มาเรียนเหรอ" ผมถาม
 
"ไม่รู้ว่ะ เมื่อเช้ามาจากบ้าน สงสัยไม่ตื่นอีกตามเคย" ปุ๊กสันนิษฐานแล้วก้มหน้าไปจดต่อ
 
"เดี๋ยวมานะ" ผมบอกกับเพื่อนๆ ที่นั่งแถวนั้น
 
"ไปไหนว่ะ" เสียงเฮงพูดอย่างงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นตอนผมขยับตัวลุกขึ้น
 
"ตามนัต เดี๋ยวมา" ผมพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
 
"เฮ้ยไปด้วย" เฌพูดขึ้น
 
"ไม่ต้อง ไปหลายคนไมว่ะ เดี๋ยวมา" แล้วผมก็เดินเลี่ยงๆ ไปทางหลังหลังแล้วกดโทรศัพท์
 
"ฮัลโหล นัตเหรอ ตื่นได้แล้ว ตื่นโว้ยยยยยยย นี่มันเก้าโมงครึ่งแล้วนะ" ผมเริ่มตะโกน เมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายงัวเงีย
 
"เออ รู้แล้วว่าง่วงออกมาเรียน ขาดบ่อยแล้วนะ ไม่ต้องเลย ออกมา จะบ้าหรือไง อ่านแต่เลกเชอร์จะไปรู้เรื่องได้ไง เอางี้ อีกครึ่งชั่วโมงจะขี่จักรยานไปรับที่หอ อาบน้ำเร็วๆ ฉันรู้ว่าแกทำได้ ครึ่งชั่วโมงเนี่ย เออๆ เร็วๆ นะ" ผมวางสายแล้วกลับไปนั่งเรียนต่อ ผมเผื่อเวลาให้นัตเอ้อละเหยอยู่อีก 15 นาที ซึ่งก็เหมาะเจาะกับเวลาพักพอดี ผมจึงรีบคว้าจักรยานไปรับนัต ให้ตายเถอะครับ ยัยนี่ขี้เซาชะมัดยากเลย ผมว่าน้องสาวผมนี่ลากลงมาจากเตียงยากแล้วนะครับ นัตนี่ยากยิ่งกว่า คิดสภาพดูสิครับ ผู้หญิงที่ไหนเขาจะลงมาหาผู้ชายด้วยสภาพที่เสื้อยังอยู่นอกกระโปรง รองเท้าก็ยังใส่ไม่เรียบร้อย อย่าถามถึงเข็มมหาวิทยาลัยเลยครับ ยังไม่ติดหรอก
 
"รอนานยังเคน พอดีเผลอนอนต่อไปหน่อย" นัตพูดอย่างร้อนรน เชื่อไหมละครับ ผู้หญิงอายุ 18 แต่งตัวบนรถจักรยาน ผมล่ะเชื่อเพื่อนผมคนนี้จริงๆ ตั้งแต่วันนั้นทำให้ผมรู้ว่า วันจันทร์ตอนเช้า ที่ปุ๊กยังไม่กลับจากบ้านมาอยู่หอ ผมมีหน้าที่เพิ่มอีกอย่างคือ ลากเจ้าเพื่อนนัตลงจากเตียงและมาเรียนให้ตรงเวลา และที่สำคัญต้องโทรไปย้ำหลายๆ ที ไม่อย่างนั้นเพื่อนของผมคนนี้เธอจะนอนต่อ สภาพของเธอเป็นยังไงเหรอรับ ก็เหมือนกันทุกวัน เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น หลังๆ มีพัฒนา แต่งตัวในลิฟท์แทนที่จะแต่งบนจักรยาน
 
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปอีกครั้ง อ๋อ คุณจะถามหรือว่า ผมไม่สงสัยความสัมพันธ์ของเจ้าเฌกับยัยนัต ไม่ต้องรอให้ผมสงสัยหรอกครับ เจ้าฝาแฝดตัวแสบเก่งกับเฮงช่วยสงสัยและถามไปเรียบร้อยแล้ว แต่เฌก็ไม่ยอมเปิดปากบอกอะไร ส่วนนัตนะเหรอปกติพูดมากจะตาย แต่พอเป็นเรื่องเฌกลับเฉไปเรื่องอื่นซะอย่างนั้น ร้ายจริงๆ รายนี้ แต่ผมเองก็ไม่สนใจนักหรอก เพราะแม้จะสงสัยอยู่เต็มเปี่ยมแต่ถ้าเพื่อนไม่อยากพูดผมเองก็ไม่อยากไปคาดคั้นให้มากเรื่อง
 
ช่วงเทอมสองทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เกรดก็ออกแสนจะออกช้าแสนช้าตามที่รุ่นพี่บอกเอาไว้ ตอนนี้พวกเราทุกคนกำลังเตรียมงานแรลลี่จักรยานที่จัดขึ้นเพื่อสานสัมพันธ์กับคณะบัญชีอยู่ ผมไม่รู้ว่าประเพณีนี้มีมานานแค่ไหน แต่ผมก็คิดว่ามันน่าสนุกเชียวแหละ งานนี้ผมอาสาเป็นคนขี่จักรยานคู่กับสาวบัญชีที่ซ้อนท้ายมา คนที่ซ้อนท้ายผมชื่อกิ๊บ เป็นคนน่ารักเชียวครับ คุยสนุก ดูเป็นผู้หญิงเชียว ดูไปดูมาก็ละม้ายคล้ายน้องเกดที่ผมเคยแอบชอบตอนอยู่ม. 5 ใช่แล้วครับ คนเดียวที่ว่าผมว่าน่าเบื่อแหละ ยิ่งคุยก็ยิ่งชอบ ยิ่งชอบก็ยิ่งอยากคุย เธอเป็นคนอารมณ์ดีช่างพูดครับ เหมือนเธอรวมเอานิสัยส่วนที่ดีของนัตกับส้มเข้ามาไว้ด้วยกัน นัตจะดีตรงคุยเก่ง ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูสนุกสนานไปด้วย ส่วนส้ม เขาจะดูเป็นผู้หญิงที่น่าถนุถนอม เป็นผู้หญิงที่ดูเป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่กระโตกกระตากเหมือนกับนัต ผมกับกิ๊บจึงคุยเล่นสนิทกันในเวลา 1 วันที่ทำกิจกรรมร่วมกัน และแล้วเราทั้งสองคนก็มาถึงจุดที่นัตทำฐานอยู่ ผมล่ะไม่ค่อยไว้ใจฐานนี้สักเท่าไหร่ เพราะนอกจากนัตที่เป็นจอมวางแผนแล้ว ยังมีเก่งและเฮงที่เป็นตัวแสบอยู่ด้วย
 
"จุดนี้ไม่ยาก เสียงนัตพูดขึ้น ก็แค่ล้วงไหนี้ แล้วหาไข่ในไหให้เจอ ในไข่จะบอกว่าจะต้องหาอะไรภายในบริเวณดังกล่าว เอ้า มี 3 ไห ถ้าพร้อมแล้วล้วงเลย" นัตพูดแล้วยิ้มท่าทางเจ้าเล่ห์มาที่ผมและส้มที่ยืนทำหน้าซีดๆ อยู่ "เอาน่าส้ม อย่างมากฉันก็ใส่ปลาไหลงไปในไห" นัตพูดทำให้หน้าส้มยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ นัตก็ได้แต่ขำเบาๆ
 
"เคน มีปลาไหลจริงๆ เหรอ" กิ๊บถามผมเบาๆ อย่างกังวล
 
"ไม่รู้เหมือนกัน สามแสบนั่น ยอมบอกเราซะทีไหน บอกว่าเป็นความลับบ้างล่ะ ไม่ยุติธรรมบ้างล่ะ แต่ที่จริงเราว่าสามแสบนั่นจะหาทางแกล้งมากกว่า" ผมพูดบอกกิ๊บ ทำให้เธอขำเล็กๆ ให้ตายเถอะครับ นั่นยิ่งทำให้เธอดูน่ารักเข้าไปใหญ่ ท่าทางผมจะตกหลุมรักสาวบัญชีเข้าเสียแล้วสิ หลังจากล้วงของในไหเสร็จ พวกเราแต่ละคู่ก็แยกย้ายกันไปหาของตรงพงหญ้าที่ตัวแสบทั้งหลายเอาของไปซ่อน ผมกับกิ๊บต้องช่วยกันหาตลัปเทปเรพเตอร์อัลบัมแรก ช่างสรรหาของที่มาให้หาจริงๆ พวกนี้
 
"กรี๊ดดดดดดดด" เสียงส้มดังขึ้น พร้อมๆ กับร่างของส้มที่ล้มลง ทำให้สายตาทุกคู่หันไปมอง ผมได้สติคนแรกวิ่งไปตรงที่ส้มล้มลงไป
 
"ส้ม เป็นอะไรหรือเปล่า" ผมถามส้มที่กำลังหน้าซีดกุมข้อเท้าเอาไว้ ตาของผมไล่ไปที่ข้อเท้าที่มือเล็กจับกุม ใจผมหายวาบ
 
ตาของผมเหลือบไปเห็นนัตวิ่งตามมากับคนอื่น "นัตไปเอาเชือกมา" แต่นัตยืนตะลึง มองไปที่เท้าของส้ม และมองไปที่งูตัวที่กัดส้ม ที่ตอนนี้เลื้อยไปไกลพอควร "นัต เร็ว" ผมตะคอกใส่นัตด้วยความร้อนรน พอทำให้นัตรู้สึกตัว นัตพยักหน้าตื่นๆ แล้ววิ่งที่ฐานหยิบเชือกฟางอย่างละล้าละลัง ผมมองตามก็รู้ว่าตอนนี้นัตสั่นทำอะไรแทบไม่ถูก แต่นัตก็พยายามครองสติ และเอาเชือกมาให้ผมภายในระยะเวลาสั้นๆ
 
"นัตไปเรียกสองแถว เร็ว เร็วสิ" ผมสั่งนัตอย่างร้อนรน ทำให้นัตรีบวิ่งที่ไปถนน และโบกรถสองแถวที่เข้ามารับส่งนักศึกษา ผมรีบมัดเชือกเข้ากับข้อเท้าของส้มให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้พิษไหลเข้าสู่หัวใจตามที่ได้เรียนมา จากนั้นผมก็อุ้มส้มไปตรงทิศทางที่นัตไปโบกรถ โชคดีเหลือเกินที่มีรถเข้ามาพอดี
 
"เอ่อ คือว่า งูกัด โรงพยาบาล" ผมได้ยินเสียงนัตตื่นๆ พูดจาไม่รู้เรื่องกับคนขับ คนขับก็ทำท่างงๆ นิดๆ แต่พอเห็นผมอุ้มส้มวิ่งตามมาก็พอเข้าใจ
 
"พี่ครับ ไปโรงพยาบาลด่วนเลย เพื่อนผมโดนงูกัด" พี่คนขับพยักหน้าตื่นๆ แล้วก็บอกให้ผมรีบขึ้นมา "นัตเร็ว" ผมเรียกนัตให้ตามขึ้นมาด้วย นัตที่ดูตื่นๆ งงๆ ตามขึ้นมาที่หลังรถ ผมบอกกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ตามมาว่าให้ไปเจอกันที่โรงพยาบาล เพราะถ้าไปกันมาก จะทำให้ส้มอาการยิ่งแย่ และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมถึงเรียกนัตให้ขึ้นไปกับผม
 
"ส้มทำใจดีๆ ไว้นะ" ผมพูดกับส้ม ขณะที่นัตจับมือให้กำลังใจส้ม ทั้งๆ ที่ยังดูตื่นๆ อยู่
 
"ไม่เป็นไรนะส้ม" เสียงนัตพูดสั่นๆ จนทำให้ผมคิดว่านัตโดนงูกัดไปอีกคน พอถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็พาส้มไปตรวจและฉีดเซรุ่ม โดยที่ผมให้นัตคอยอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ ไม่นานนัก เพื่อนๆ ก็ตามมาถึงโรงพยาบาล ผมให้แป้งเข้าไปเปลี่ยนกับนัตที่ดูหน้าซีดๆ
 
"นัตไหวหรือเปล่า" ผมเดินเข้าไปหานัต ขณะที่เพื่อนๆ กรูเข้าไปมองที่หน้าห้องตรวจ นัตมองหน้าผม น้ำตาเอ่ออยู่ที่ขอบตา ปริ่มๆ ไหลมา
 
"ส้มไม่เป็นไรหรอก เฮ้ย อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ" ผมเดินเข้าไปหานัตที่ดูตัวสั่นๆ ลูบไหล่ที่สั่นไหวเบาๆ
 
"เพราะนัตเอง นัตเป็นคนคิดให้ไปหาของที่พงหญ้า นัตผิดเองเคน นัตผิดเอง" นัตพูดได้เท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมา ผมตกใจไม่รู้จะทำยังไง ให้ตายสิ ที่ผ่านมาผมเห็นแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากเพื่อนคนนี้เสมอ แต่ครั้งนี้เธอร้องไห้ ผมรู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน ดอกไม้ในโลกนี้จะไม่มีวันบาน และพระอาทิตย์จะไม่มีวันขึ้นอีกครั้ง
 
"นัต ไม่ใช่ความผิดของนัต ไม่มีใครอยากให้เกิด ใจเย็นๆ ไม่เอาน่าอย่าร้อง" ผมโอบไหล่และบีบไหล่ข้างขวาของนัตเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ทำให้นัตหันมาร้องไห้ที่ไหล่ผม "ไม่ต้องร้อง ส้มไม่เป็นอะไรมาก เชื่อสิ" แล้วผมก็หยิบผ้าเช็ดหน้าของผมที่ดูมอมแมมนิดหน่อยมาซับน้ำตาให้เธอ
 
"นัต ร้องไห้ทำไม" เสียงปุ๊กดังขึ้น พร้อมๆ กับที่เธอกำลังวิ่งมา
 
"ส้มโดนงูกัด โทษว่าเป็นเพราะตัวเอง" ผมตอบโดยพูดประโยคหลังเบาๆ พอนัตเห็นปุ๊กเท่านั้นแหละ เธอก็โผกอดปุ๊กทันที ผมได้แต่มองอย่างเศร้าใจ ผมลูบหัวนัตเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ขณะที่เธอร้องไห้โฮ
 
ไม่นานนักคุณหมอก็มาบอกว่าส้มปลอดภัยดี แต่คงต้องนอนโรงพยาบาลดูอาการอยู่อีกสักพัก ทีแรกนัตขอเป็นคนอยู่เฝ้า แต่คุณหมอไม่อนุญาต ทำให้นัตต้องกลับไป ไม่รู้ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่านะ แต่วันนั้นงานตอนกลางคืนดูเงียบเหงาไปถนัดตา อาจเป็นเพราะไม่มีเสียงหัวเราะและมุขตลกของนัตที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ แม้ว่าสองคู่หูตัวแสบจะพยายามเล่นมุขและดึงให้นัตร่าเริงแค่ไหน แต่นัตก็ทำแต่เพียงยิ้มบางๆ แล้วหลบไปนั่งอยู่คนเดียว ส่วนผมกับปุ๊กก็ไม่ยอมที่จะห่างนัตไปไหนเลย ก็มีบ้างที่ความจำเป็นบางครั้ง ทำให้ผมกับปุ๊กก็ต้องออกไปทำกิจกรรมบนเวที พอถึงตาที่นัตต้องแสดง เธอก็ทำอย่างเสียไม่ได้ ผมดูออกเลยว่านัตฝืนทำเป็นร่าเริง พอลงจากเวทีนัตก็หลบไปนั่งมุมเงียบๆ มุมหนึ่ง
 
"นัตไม่เอาน่า" ผมลูบหลังปลอบเบาๆ "หมอบอกแล้วว่าส้มไม่เป็นอะไร แกทำอย่างนี้งานกร่อยหมดนะ
 
"ขอโทษ แต่ฉันยังช็อคไม่หาย พวกแกไปสนุกกันเถอะ" นัตตอบพลางยิ้มแห้งๆ ให้ผม ผมมองหน้าปุ๊กอย่างกลุ้มใจ แล้วผมก็เห็นเจ้าเฌเดินมานั่งตรงหน้าของนัต นัตมองหน้าเฌอยู่แว่บนึงแล้วก็หลบสายตาไปมองที่พื้นเหมือนเดิม ผมล่ะหวั่นใจจริงๆ เพราะผมรู้สึกว่านัตไม่ค่อยชอบเจ้าเฌเท่าไหร่ อีกอย่างผมเคยได้ยินนัตพูดว่า ไม่ชอบคนท่าทางเป็นคุณชายทุกระเบียบนิ้วอย่างเจ้าเฌ และนี่เจ้าเฌจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย ผมคิดอย่างเกรงๆ พลางส่งสายตาไล่เจ้าเฌ แต่มันก็ไม่มองมาที่ผมเลย ให้ตายสิ
 
"นัต" เสียงเฌเรียกนัต ทำให้นัตเงยหน้าขึ้นมาแล้วเฌคุณชายผู้ที่ต้องดูดีอยู่เสมอในสายตาของคนอื่น ก็ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด
 
"ฮ่าๆๆๆ เฌทำไรอ่ะ บ้า" เสียงนัตหัวเราะขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผมกับปุ๊กมองหน้ากันอย่างงๆ ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการทำให้นัตหัวเราะแต่ไม่สำเร็จ เฌมาไม่ถึง 2 นาที ทำให้นัตหัวเราะได้
 
"หัวเราะแล้ว ต้องอย่างนี้สิ นัตไม่สนุก เพื่อนก็หงอยนะนัต อย่าทำหน้าอย่างนี้เลย หน้าบูดน่าเกลียดจะตาย" เฌพูดขึ้น ให้ตายเถอะครับ ผมไม่เคยเห็นเฌทำหน้าทะเล้นมาก่อนเลย แล้วเฌก็แลบลิ้นปลิ้นตาอีกครั้ง เพื่อให้นัตหัวเราะ
 
"บ้า ฉันไม่หลงกลมุขนายเป็นครั้งที่สองติดต่อกันหรอก" นัตพูดกลั้วหัวเราะ "ไปปุ๊ก ไปดูเก่งกับเฮงเล่นมายากลกัน" นัตคนเดิมกลับมาแล้ว ผมมองเฌอย่างไม่เชื่อสายตา เฌเพียงแค่ยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า แล้วยักไหล่เดินตามสองสาวไป ให้ตายสิ บทหมอนั่นจะกวนก็น่าถีบชะมัดเลย ให้ตายสิ
 
 
:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:
 
 
 
<<<back           1              2              3               4                                next>>>