เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวช้าๆ
กระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงสว่างที่ลอดเข้ามาในห้อง
เฮอร์ไมโอนี่เหลียวซ้ายแลขวาหาคนที่กอดเธออย่างอบอุ่นเมื่อคืนนี้
แต่เธอก็ไม่พบใครอยู่ในห้องนอกจากเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่ง
แล้วพับเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่ปกป้องเธอจากความหนาวเย็นในยามค่ำคืน
เธอไมโอนี่ได้กลิ่นกลิ่นกายของเขาจางๆ
จากเสื้อคลุม ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นราวกับว่าเขาอยู่ข้างๆ
เธอ 'สงสัยกลับไปก่อนละมั้ง'
เฮอร์ไมโอนี่คิด พลางเดินออกไปจากห้องนั้น
"เฮอร์ไมโอนี่ ไปไหนมาแต่เช้า"
เดฟทักขึ้นอย่างสดใสเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของหอประธานนักเรียน
"ฉัน เอ่อ คือ " เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก
ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเขาดีหรือไม่
"ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร
ไปกินข้าวกันเถอะ" เขายิ้มกว้างให้เธอ
"เดี๋ยวฉันขอไปล้างหน้าเก็บของก่อนนะ"
เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วก็เดินทางหอนอนประธานนักเรียนหญิง
แล้วเธอก็หันมาพูดกับเดฟ
"เดฟ ถ้าหิวไปก่อนเลยนะ"
"ไม่ล่ะ ฉันรอดีกว่า
เดี๋ยวจะมีใครมาดักฉุดเธอไประหว่างทาง"
เขายิ้มเล่นๆ อย่างมีเลศนัย
"บ้า ใครจะมาฉุดฉัน งั้นรอแป๊บนึงนะ"
เฮอร์ไมโอนี่พูดขำ ก่อนที่จะเดินขึ้นหอนอนไป
"เดรโก มัลฟอยยังไงล่ะ"
เขาพูดเบาๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จริงอย่างที่เดฟคิด
วันนี้เดรโกพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ทั้งวัน
แต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้สักที
เพราะช่วงเวลาพักเดฟก็จะตามประกบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ตลอดเวลา
ช่วงเวลาเรียนอัศวินทั้งสองของเธอก็คอยประกบ
โดยเฉพาะเจ้าพอตเตอร์ที่คอยมองเขาอย่างพวกหมาหวงก้าง
นั่นทำให้เขาหงุดหงิดมาก
เขาอยากจะเตือนเธอเรื่องที่เจ้าเดวิด
คาร์ลอส เป็นผู้เสพความตาย
แต่ให้ตายเถอะเขาไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอสักที
เดรโกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องเอาเรื่องนี้มาบอกเธอด้วย
เขาไม่รู้ว่าเขาเป็นห่วง
หรือว่าต้องการมาเยาะเย้ยเธอ
เขาถอนหายใจอย่างเชื่องช้าเมื่อเห็นว่าวันนี้เขาคงไม่ได้คุยกับเธอแน่
เพราะตอนนี้เธอถูกประกบด้วยเจ้าคาร์ลอสทุกฝีก้าว
แถมเจ้าคาร์ลอสยังเหมือนจะรู้ว่าเขาทำอะไร
จะบอกอะไร เพราะนอกจากมันจะตามเฮอร์ไมโอนี่ทุกฝีก้าวแล้ว
มันยังส่งสายตามามองอย่างคนที่เหนือกว่ามาที่เขาอีกด้วย
เขาพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่หลายวัน
แต่ความพยายามของเขาก็ไม่เป็นผล
เขาเดินไปตามระเบียงอย่างเซ็งๆ
และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงๆ
หนึ่ง ดังขึ้นอยู่อีกด้านหนึ่งของระเบียง
"นี่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายทนเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ได้ยังไงมาตั้งหลายปี"
เสียงใสๆ ดังขึ้น เดรโกจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร
เขายืนพิงกำแพงหาที่หลบพวกเขาทั้งสามคน
"ก็ดีกว่าไปนั่งมองตัวเลขแหละน่า
เธอนั่นแหละเฮอร์ไมโอนี่
ทนเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ได้อย่างไร"
เสียงรอนพูดขึ้น ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตาเขียวปั๊ดที่เขาบังอาจมาว่าวิชาสุดโปรดของเธอ
"เอาล่ะๆ พวกเราแยกย้ายกันไปเรียนดีกว่า
แล้วเจอกันนะเฮอร์ไมโอนี่"
เสียงแฮร์รี่ดังขึ้นเพื่อยุติสงครามย่อมๆ
ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เดรโกลอบเห็นรอนกับแฮร์รี่เดินไปอีกทาง
และจังหวะนั้นเองที่เขาเห็นเฮอร์ไมโอนี่อยู่คนเดียวครั้งแรกในรอบหลายๆ
วันนี้เลยทีเดียว เขากำลังที่จะออกเดินไปหาเธอ
"มัลฟอย นั่นนายกำลังจะทำอะไร"
เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นทำให้เขาหยุดชะงัก
"คาร์ลอส ไม่เกี่ยวกับนาย"
เขาคำราม เมื่อเห็นหน้าเจ้าของเสียง
"เกี่ยวสิ เกี่ยวอย่างมาก
เพราะนายกำลังจะทำให้แผนนายท่านเสีย"
เขาพูดหน้าเครียด "นายกำลังจะไปบอกเฮอร์ไมโอนี่ใช่ไหมว่าฉันเป็นผู้เสพความตาย
หึๆๆ นายเป็นเลือดบริสุทธิ์อย่างนายไม่น่าไปคลุกคลีกับเลือดสีโคลนเลยนะมัลฟอย
พ่อของนายคงผิดหวังมาก"
เขาหัวเราะในลำคอและทำท่าทางน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
"คาร์ลอส แก" เดรโกคำรามใส่เดฟ
ขณะที่มือขย้ำคอเสื้อของเขา
"เอามือออกจากคอเสื้อฉัน
มัลฟอย อย่าลืมว่าฉันมีสิทธิ์ทั้งตัดคะแนนบ้านและเอาเรื่องของนายไปบอกนายท่าน"
เขาพูดเสียงเย็น แล้วผลักอกเดรโกออกไป
"จำเอาไว้มัลฟอย อย่าบอกเฮอร์ไมโอนี่เรื่องฉัน"
เดฟพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไป
แต่เดรโกก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
"นายต้องการอะไรจากเฮอร์ไมโอนี่
คาร์ลอส" เดรโกจ้องมองหน้าเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"ไม่ใช่เรื่องของนาย"
เขายิ้มเยาะๆ ก่อนที่จะสะบัดผ้าคลุมเดินจากไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยของวันได้แล้ว
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ที่ที่ประจำที่ห้องสมุด
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเดฟถึงตามประกบเธอในช่วงอาทิตย์นี้
แต่ยามใดที่เธอถามเขาถึงสาเหตุ
เขาก็จะยิ้มด้วยแววตาขี้เล่นตามสไตส์ของเขา
พร้อมกับบอกเธอว่า "เฉยไว้
เฮอร์ไมโอนี่ แล้วจะดีเอง"
วันนี้ก็เช่นกัน เธอพยายามที่จะสลัดเขาให้หลุดจากการประกบ
แต่มันก็ทำได้ยากยิ่ง
ถ้าเธออยู่ในโลกของมักเกิล
เธอคงคิดว่าเขาคงติดเครื่องมือติดตามตัวเธอไว้สักแห่งในตัวเธอแล้ว
เพราะไม่ว่าเธอจะสลัดเขามาได้สักกี่หน
แต่เขาก็จะเจอตัวเธอภายในเวลา
15 นาทีทุกที
"เดฟฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ"
เธอพูดเสียงเบาๆ พอให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น
"ว่าไง" เขาเงยหน้าจากหนังสือรู้ทันศาสตร์มืดชั้นสูงมามองหน้าเธอ
"นายเลิกตามฉันสักทีได้ไหม
คือ ฉันรู้สึกอึดอัดนะเดฟ
ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันรำคาญเธอนะ
เพียงแต่ว่า เอ่อ ฉันจะพูดยังไงดีล่ะ"
เฮอร์ไมโอนี่พยายามเรียบเรียงคำพูดไม่ให้ทำร้ายจิตใจเขา
"ฉันเข้าใจเฮอร์ไมโอนี่
แต่แค่ช่วงนี้เท่านั้น"
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังเล็กน้อย
ไม่ใช่ขี้เล่นอย่างที่ผ่านๆ
มา
"มีเรื่องอะไรที่นายไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าเดฟ"
เฮอร์ไมโอนี่หน้าเครียดเมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขา
เธอไม่ค่อยเห็นใบหน้าที่บ่งบอกไปถึงความเครียดและความกังวลจากเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่นัก
"นิดหน่อย นิดหน่อยเท่านั้น
มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเก็บมาคิดหรอกน่า"
เขากลบเกลื่อนด้วยการเอามือขยี้ผมเธอเบาๆ
แล้วยิ้มหวานให้
"นายแน่ใจนะว่าไมมีอะไร"
เธอมองตาเขา หวังที่จะอ่านความคิดที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มหวานๆ
นั้น
"ถึงมี มันก็อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ ไปกันเถอะฉันหิวแล้ว"
เขาพูดพลางเอามือลูบท้อง
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบาๆ
เป็นเชิงเข้าใจ ก่อนที่จะเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเดินตามเขาไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวมเพื่ออ่านหนังสือ
ใจจริงเธอก็อยากไปอ่านหนังสือที่ทะเลสาบอยู่เหมือนกัน
แต่เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไปที่นั่นเดฟก็จะตามเธอไปอีกเหมือนเคย
ทำให้เธอตัดสินใจที่จะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ
อยู่บนหอนอนเพียงลำพัง
เธอต้องการที่จะอยู่เงียบๆ
บ้าง เพื่อที่จะคิดอะไรบางอย่าง
ตอนนี้เธอเริ่มคิดว่าสถานการณ์รอบๆ
ตัวเธอกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง
มีอะไรบางอย่างที่เธอยังไม่รู้
อย่างเช่นพฤติกรรมแปลกๆ
ของเดฟ เธอรู้ดีว่าเดฟมีอะไรปิดบังเธออยู่
เธอเคยสงสัยพฤติกรรมของเดฟตั้งแต่มาทำหน้าที่ประธานนักเรียนด้วยกัน
แต่เธอก็คิดว่าบางที
อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้
ประกอบกับเรื่องของเธอกับเดรโกทำให้เธอไม่มีเวลายุ่งเรื่องของเดฟมากนัก
แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าเดฟยิ่งแปลกไปกว่าทุกที
เขาบอกว่าเขาจะช่วยเธอคืนดีกับเดรโก
แต่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเดรโกกำลังจะเข้ามาคุยกับเธอ
เขาก็จะกันตัวเธอออกไปทุกครั้ง
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น
หลังจากวันที่เธอพบกับเดรโก
เธอเริ่มมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอคงจะดีขึ้น
เธอรู้สึกถึงสายตาที่เขามองมาทางเธอบ่อยๆ
และไม่ใช่สายตาของความแค้น
อาฆาต แต่เป็นสายตาที่บ่งบอกความหมายอะไรสักอย่างที่เธอก็ไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร
แต่ที่เธอรู้ตอนนี้ก็คือ
ขืนเดฟและเธอยังเป็นเงาตามตัวอยู่อย่างนี้
เขากับเธอไม่มีทางที่จะคืนดีกันอย่างแน่นอน
และเขาต้องเขาใจผิดไปต่างๆ
นานา เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างกลัดกลุ้ม
เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจบางอย่างเงียบๆ
ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นไปหยิบกระดาษกับปากกาขนนกขึ้นมาเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง
"เดรโก
ฉันขอร้องให้นายอ่านจดหมายนี้จนจบก่อนที่เธอจะฉีกมันไป
ขอบคุณนะ ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันเองอยากเจอนาย........."
เฮอร์ไมโอนี่เขียนจดหมายได้แค่นี้ก็ขยำกระดาษทิ้ง
และเอาไม้กายสิทธิ์มาเสกคาถาให้มันไหม้มอดไป
'ไม่ได้เขียนอย่างนั้นไม่ดี
ดูง้อจนเกินไป เอาไงดีน้า'
เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดพลางหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาแล้วจรดปากกาขึ้นมาใหม่
"เดรโก มัลฟอย
ฉันเห็นนายป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวฉันหลายวัน
นายมีอะไรหรือเปล่า"
'ไม่ดีๆ ถ้าเขาไม่อยากเจอเราล่ะ'
เฮอร์ไมโอนี่คิด เธอนั่งเอามือกุมหัวอยู่สักพักก่อนที่จะล้มตัวลงนอน
'รอวันวาเลนไทน์ละกัน'
เฮอร์ไมโอนี่คิด พลางหยิบสร้อยที่มีจี้เป็นรูปมังกรออกมา
เธอมองมันอยู่นานก่อนที่จะบรรจงใส่มันในกล่องเล็ก
และห่อของขวัญอย่างปราณีต
พอเสร็จแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง
"นายต้องรับของจากฉันนะเดรโก"
เธอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสักพัก
นิทราก็พาเธอไปสู่ดินแดนแห่งความหลับไหล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในอีกทางด้านหนึ่งของปราสาท
ในหอนอนชายสลิธิลิน
เดรโก มัลฟอยนั่งลงอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของเขา
ข้างหน้ามีกระดาษที่เขียนจดหมายค้างเอาไว้
เขาตั้งใจจะเขียนจดหมายไปนัดหมายกับเฮอร์ไมโอนี่
เพื่อที่จะบอกเรื่องราวทั้งหมด
ถึงแม้ว่าเขาไม่อาจจะเลี่ยงลิขิตจากฟากฟ้าที่เขาจะต้องเป็นผู้เสพความตายที่ต้องฆ่าผู้คนบริสุทธิ์มากมาย
แต่เขาก็ยังอยากให้เธอปลอดภัย
การอยู่ห่างจากผู้เสพความตายน่าจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเธอ
แต่ความคิดนั้นก็จบลงเมื่อมีนกฮูกสีน้ำตาลตัวหนึ่งบินมาเคาะกระจกที่หอนอนเขา
แล้วมันก็หย่อนจดหมายที่ว่างเปล่าฉบับหนึ่งลงที่เขา
เขารู้ดีว่าจดหมายนี้มาจากใคร
เขาพึมพำรหัสลับระหว่างเขากับพ่อสองสามคำก่อนที่จะก้มลงอ่านจดหมาย
"เดรโก
นายท่านมีคำสั่งให้แกไปฆ่าครอบครัวเกรนเจอร์ทั้งหมดในวันที่
14 นี้ คงไม่ยากเกินไปสำหรับแกที่จะกำจัดมักเกิลธรรมดาๆ
สักคนสองคน
ลูเซียส"
เดรโกรู้สึกชาไปทั้งร่างเมื่ออ่านจดหมายนี้จบ
นี่เขาต้องไปฆ่าพ่อแม่ของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนั้นหรือ
เขาคิดอย่างอ่อนแรง
ถ้าเขาไม่ทำ นั่นหมายถึงความเคลือบแคลงในความภักดีที่มีต่อลอร์ดโวลเดอร์มอร์ต
แต่ถ้าเขาทำ นั่นหมายถึงการทำร้ายคนที่เขารักมากที่สุด
ตอนนี้ความคิดของเขาตีกันยุ่งเป็นยุงตีกัน
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดี
เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอด้วยความสมเพชตัวเอง
เขาจำได้ดีว่าตอนคริสมาสต์เขาคิดยาวมาถึงวันวาเลนไทน์ว่า
เขาจะเซอร์ไพส์เธอด้วยการให้ช่อดอกไม้ช่อโตที่สั่งจากฮอกมีดส์
แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขากลับต้องมานั่งคิดว่าเขาต้องฆ่าครอบครัวเกรนเจอร์ดีหรือไม่
"ปัดโธ่โว้ย" เขาตะโกนออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ก่อนที่จะนั่งเอามือกุมตัวอยู่เพียงลำพัง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++